ความรื่นรมย์แห่งรีสอร์ทใจกลางเมือง ความสงบที่หลายคนถวิลหายังมีอยู่จริงริมถนนสาทร ใครจะคิดว่า รีสอร์ทบรรยากาศดีแสนสงบแห่งนี้ จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยตึกสูง แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว ที่ทำให้คุณได้รับประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน วันนี้ก็จะพาทุกท่านไปพบกับหนึ่งในโรงแรมที่ท่านสามารถทอดตัวสบายใจไปกับความสงบ พักผ่อนวันหยุดอันแสนมีค่าของคุณ แต่กลางเมือง ณ โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ เบื่อไหมกับการที่ท่านจะต้องฝ่ารถติดไปยังต่างจังหวัด? เหนื่อยหรือเปล่ากับการที่ต้องขับรถไกลๆไปยังจุดหมายปลายทาง? ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปถ้าท่านเลือกพักผ่อนที่โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ The Sukhothai Bangkok แหล่งรวมความผ่อนคลายที่ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในใจกลางเมือง สปาคุณภาพสูง ร้านอาหารที่ดีเยี่ยม ชั้นเลิศกับคุณภาพวัตถุดิบ ความพิถีพิถันในการปรุงรวมถึงหน้าตาการจัดแต่งจาน บริการ และรสชาติ ศูนย์รวมเครื่องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่ครบวงจร ในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับอีกฝั่งที่มีการรีโนเวทใหม่กันครับ อาคาร Club Wing ตารางของอาคารแห่งนี้หากเข้ามา ก็จะพบกับห้องอาหารลาสกาล่า La Scala ห้องอาหารอิตาเลียนชื่อดัง หากเดินตรงไปและทะลุออกไปนอกตึก ท่านก็จะพบกับสระว่ายน้ำแสนสวยบริเวณริมสระว่ายน้ำที่แสนสงบ และทางลงไปยังศูนย์ออกกำลังกายขนาดใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วย ส่วนอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย การออกแบบทั้งสถาปัตยกรรมภายในและภายนอกนั้นล้อมาจากหมู่อาคารหลัก ด้านนอกอาคารมีความเป็นมวลขนาดใหญ่ที่เป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนทางสีขาว มีช่อเปิด เรียงกันอย่างสมมาตร เป็นช่องเปิดสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียงรายต่อกัน ซึ่งถอดรูปมาจากสัดส่วนการเรียงตัวของเสาและช่องเปิดของงานสถาปัตยกรรมไทยที่เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทาสีขาวที่ในอดีตมักต้องทำผนังให้หนาเพราะโครงสร้างหลักในการรับน้ำหนักและพยุงตัวคือกำแพงที่รับน้ำหนังจากด้านบนและถ่ายลงสู่ฐานรากที่พื้นนั้นเอง งานออกแบบสถาปัตยกรรมภายในจะใช้วัสดุหลักๆเช่นเดียวกับหมู่อาคารหลักเช่นกัน นั่นคือกระจกเงา ผ้าไหม ไม้สัก และหินแกรนิตสีดำ วัสดุทั้ง 4 นี้ เป็นวัสดุหลักที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมโยงการออกแบบหลักทั้งโรงแรมทำให้รูปแบบของงานสถาปัตยกรรมภายในที่นี่ดูมีความเป็นเอกภาพและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งยังส่งผลให้ภาพลักษณ์มีความเป็นไทย Club Lounge เราเริ่มต้นสู่ประสบการณ์เข้าพักกันเลยดีกว่าครับหลังจากที่เข้ามาถึงอาคารแห่งนี้จอดรถเรียบร้อยและนำสัมภาระลงเราสามารถส่งสัมภาระทั้งหมดนี้ให้กับเจ้าหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่พนักงานจะนำกระเป๋าต่างๆของเราขึ้นไปสู่จุดเช็คอินซึ่งเป็นล็อบบี้ที่อยู่ชั้น 6 ซึ่งเป็นห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้เข้าพักจะพรุ่งนี้ Club lounge เราจะได้รับการต้อนรับจากพนักงานโดยพวงมาลัยแสนสวยงามขนาดใหญ่หลังจากให้รายละเอียดพนักงานเป็นที่เรียบร้อย ก็จะมีเครื่องดื่มต้อนรับและบริการ สำหรับการเช็คอินที่นี่จะมีความพิเศษกว่าในหลายๆที่คือเราไม่จำเป็นต้องยืนเกาะเคาน์เตอร์ให้เมื่อยเพราะจะมีเก้าอี้ให้เรานั่ง และคอยทำธุรกรรมจนแล้วเสร็จ ก่อนจะขึ้นไปสู่ห้องพัก เราขอพาทุกท่านชื่นชมบรรยากาศ Club Lounge ซึ่ง Club Lounge ที่นี่แม้จะอยู่เพียงระดับชั้นที่ 6 แต่ก็มีทัศนียภาพที่งดงาม ด้วยทัศนียภาพสระว่ายน้ำของโรงแรมที่สวยงามรวมถึงบริเวณโดยรอบและเป็น ภาพที่สวยงามยิ่งกับพื้นที่สีเขียวจากหมู่มวลต้นไม้ของสถานทูตเยอรมัน จรดสายตาต่อไปกับเส้นขอบฟ้าที่เป็นบรรดาตึกสูง ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดกว้างไม่มีอะไรบังสายตาในระยะกระชั้น ผนังด้านที่อยู่ชมทัศนียภาพเป็นกระจกสูงจากพื้นถึงเพดาน แบ่งเป็นปีกซ้ายและขวา พื้นที่ฝั่งขวาหากหันหลังให้ลิฟท์จะมีโต๊ะที่นั่งกินดื่ม เป็นกิจลักษณะ ด้านติดกำแพงเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีผนังบุผ้าไหมสีเทาแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ สามารถให้บริการท่านได้อย่างหลากหลายโดยตั้งแต่ในช่วงเช้าจะให้บริการอาหารเช้า ส่วนในช่วงบ่ายจะมีการให้บริการเป็น ชุดน้ำชายามบ่ายพร้อมขนมหวาน และในช่วงนี้ Chocolate Buffet ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของโรงแรมยังให้บริการ ณ ที่แห่งนี้ด้วยซึ่งย้ายจากล็อบบี้ฝั่งตึกใหญ่มาที่นี่…
Author: Kittin Assavavichai
Update 25-11-63 : Omakase Promotionพบกับมื้อค่ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียงวันละ 12 ที่เท่านั้น ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2563 นี้ ห้องอาหารณี่ปุ่นฮากิ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว เชิญคุณสัมผัสขนบการรับประทานอาหารแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมใน ‘โช-วะ’ สาเกแพร์ริ่ง ดินเนอร์ นำเสนอคู่รสชาติและรสสัมผัสของอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับอย่างลงตัว ตามความหมายของคำว่า ‘โช-วะ’ (調和) ที่ร้อยเรียงในความหมายภาษาไทยว่า “เคียงคู่อย่างสมบูรณ์แบบ” รังสรรค์ผ่านรายการอาหาร 8 คอร์สโดยมาสเตอร์ ไอรอนเชฟฮิโรชิ มัสซึดะ นักปรุงอาหารมากความสามารถจากเมืองนาโกย่า เสิร์ฟเคียงสุดยอดรายการสาเกชั้นนำ 8 รายการจากแดนอาทิตย์อุทัย ร้อยเรียงรสชาติโดยสาเกมาสเตอร์สัญชาติญี่ปุ่นมากประสบการณ์ โทโมฮิโระ โอซึโบะ แห่ง ชิบาทายะ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสาเกญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในนาม ฮามากาวะ โชเต็น โรงกลั่นสาเกชื่อดังจากจังหวัดโคจิ จังหวัดทางตอนใต้บนเกาะชิโกะของประเทศญี่ปุ่น ที่จะมามอบความรู้และความหลงใหลด้านสาเกและการดื่มสาเกตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เริ่มต้นมื้อค่ำสุดพิเศษในครั้งนี้ ด้วยจานเรียกน้ำย่อยสามสหายความอร่อยของเชฟฮิโรชิ ทั้งเนื้อโกเบ เม่นทะเลและสแกลล็อป ขับกล่อมความสดใหม่ของแต่ละวัตถุดิบด้วย ชินทาโร่ (Shintaro) สาเกยอดนิยมแพร่หลายที่เสริมรสชาติเผ็ดร้อนแต่กลมกล่อมเพื่อเรียกน้ำย่อยเริ่มมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี ก่อนลิ้มลองคู่ไฮไลท์รายการอาหารจานหลักอย่าง สเต็กเนื้อวากิวญี่ปุ่นคู่ฟัวกราส์ เสิร์ฟเคียง โคมากุระ เก็น (Komagura ‘Gen’) สาเกกลั่นอย่างพิถีพิถันที่สุด อบอวลรสเปรี้ยวละมุนที่เสริมความอร่อยของอาหารจานเนื้อได้อย่างลงตัว และ ทอดมันกุ้งอัลมอนด์แบบญี่ปุ่น เสิร์ฟคู่ ทนโบะ (Tonbo) สาเกเสิร์ฟอุ่นรสนุ่มนวลและสดชื่น กลั่นจากพันธุ์ข้าวยามาดะ นิชิคิ พันธุ์ข้าวที่ถูกขนานนามว่าเป็นราชาแห่งพันธุ์ข้าวสาเก รวมทั้งอีกหลายรายการอาหารเคล้าหลากรสชาติของสาเกที่ดีที่สุดจากสาเกมาสเตอร์โทโมฮิโระ และที่พลาดไม่ได้ส่งท้ายมื้ออาหารพิเศษนี้ กับ ดราก้อน หมายเลข 3 (Doragon 3) สาเกรสเข้มกำลังดี พร้อมความหอมสดชื่นแบบหวานอมเปรี้ยวที่เติมเต็มรายการของหวานอย่าง ชีสทาร์ตรสมะนาว สูตรพิเศษของเชฟฮิโรชิได้อย่างนุ่มนวล ‘โช-วะ’ สาเกแพร์ริ่ง ดินเนอร์อาหารค่ำ 8 คอร์สมื้อพิเศษ ณ ห้องอาหารณี่ปุ่นฮากิ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ให้บริการระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2563ท่านละ…
Buffet Dimsum Date : Nov 2020 Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. สำหรับท่านที่อยู่ระหว่างการมองหาร้านอาหารจีนแนวกวางตุ้ง ที่มีจุดเด่นทั้งเมนูติ่มซำและอาลาคาร์ต ในราคาสบายกระเป๋า แถวย่านลาดพร้าว รัชดา ห้องอาหารหล่งฟ่ง ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจและน่าลองไปรับประทานเป็นอย่างยิ่ง สำหรับท่านที่ประสงค์จะทานอาหารที่ห้องอาหารหล่งฟ่ง สามารถจอดรถได้ที่ในโรงแรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ที่จอดรถกว้างขวาง สามารถนัดเพื่อนฝูงหรือครอบครัวมารับประทานอาหารได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งในโอกาสปกติ และในโอกาสพิเศษ มีห้องส่วนตัวหลากหลายขนาด โดยทางร้านพร้อมต้อนรับด้วยบริการสุดพิเศษ และอาหารจีนในราคาสุดคุ้ม โดยทางร้านมีบุฟเฟต์อาหารจีนและติ่มซำพร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนู ในราคามิตรภาพ และคุณภาพอาหารที่คุ้มเกินราคา ห้องอาหารตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์น มีความผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความเป็นสมัยใหม่ ให้ความรู้สึกหรูหราจากวัสดุตกแต่งและแสงไฟ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้รู้สึกถึงความเป็นมิตรและความพร้อมให้บริการจากรอยยิ้มของพนักงานร้าน รับประทานเต็มอิ่ม ในราคาสุดคุ้มค่า ด้วยเมนู All You Can Eat ในวันจันทร์ – ศุกร์ ท่านละ 988 บาท และสำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในราคา 1,288 ต่อท่าน (รวมเป็ดปักกิ่ง และหมูหัน) โดยสามารถทานได้ไม่อั้น ทั้งเมนูติ่มซำ และอาหารจีนกวางตุ้ง โดยทางร้านให้เวลามากถึง 3 ชั่วโมง ในการลิ้มรสอาหารของทางร้าน และกลับบ้านพร้อมกับประสบการณ์การทานอาหารที่เต็มอิ่มและมีความสุข ทางร้านมีเมนูหลากหลายรูปแบบ จากหลากหลายวัตถุดิบให้ลิ้มลอง ทั้งเมนูดั้งเดิม และเมนูฟิวชั่นต่างๆ อาทิ เรียกน้ำย่อยด้วยเมนูออเดิร์ฟ ยำแมงกะพรุนน้ำมันงาของที่นี่ เป็นออร์เดิร์ฟที่เคี้ยวสนุก รสชาติเผ็ดนิดๆ กระตุ้นความอยากอาหารได้ดี – เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ ของที่นี่ทั้งอร่อยและมีมาตรฐานที่สูงมากๆ ครับ หมูกรอบมีความกรอบมากๆ เคี้ยวไปได้ยินเสียงกรุบๆ ในปากเลยครับ ไก่แช่เหล้า หนึ่งในอาหารพื้นฐานของอาหารจีนกวางตุ้ง ของร้านนี้ทำได้ดีเช่นกัน เนื้อไก่มีกลิ่นหอมมาก เมนูโจ๊ก สำหรับเมนูโจ๊กของที่นี่ ขอแนะนำโจ๊กต้มยำกุ้ง ที่มีรสชาติกลมกล่อมได้รสต้มยำ เสิร์ฟพร้อมกุ้ง รสชาติของโจ๊กไม่เผ็ด แต่ได้กลิ่นของต้มยำกุ้ง …
เทรนของการตกแต่งผนังในปัจจุบัน ผนังผ้าไหมของโรงแรมนี้สวยจังเลย แต่…คงดูแลลำบากน่าดู ผนังวอลเปเปอร์ที่นี่สวยจัง มีลายนูนต่ำนิดๆด้วย แต่ใช้ไปนานๆคงลอกแถมเคยอ่านเจอใน www.kinlakestars.com ว่าด้านหลังแผ่นวอลเปเปอร์เป็นที่สะสมของราที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะกับห้องที่เปิดปิดแอร์สลับไปมา !!! ผนังกระเบื้องสวยจังแต่จะเจาะน๊อตแขวนภาพ ทำอะไรก็ลำบาก กลัวกระเบื้องแตก อยากได้ผนังลวดลายสวยๆที่ไม่ใช่เพียงสีเรียบๆแต่ทำง่ายคงทนไม่สะสมเชื่อโรค ไม่ใช่ผ้า ไม่ใช่วอลเปเปอร์และไม่ใช่กระเบื้อง จะไม่ไหม? … ขอบอกเลยว่ามีครับ ทั้งสวย ทั้งคุณภาพดี ราคาควบคุมได้ คืออะไรหละ ไปดูกันเลยครับ ปัจจุบันนี้ผนังภายในบ้านหรือภายในอาคารนิยมสร้างความโดดเด่นนอกจากเพียงแค่การทาสีเรียบๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วอลเปเปอร์ในการตกแต่ง เนื่องจากติดตั้งง่าย สามารถปกปิดความบกพร่องของพื้นผิวได้ในกรณีงานปูนฉาบไม่ดี มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันวอลเปเปอร์ก็มีปัญหาหลายอย่างเช่น ถ้าผนังที่มีความชื้นอยู่ วอลเปเปอร์อาจจะเป็นแหล่งสะสมความชื้น เกิดเชื้อโรคและเชื้อราได้ง่าย หรือวอลเปเปอร์บางประเภทที่ไม่ทนความชื้นจะเกิดปัญหาสีตกและลอกล่อน วอลเปเปอร์ชนิดที่เป็นกระดาษเมือเกิดคราบสกปรกจะทำความสะอาดยาก และเมื่อเวลาผ่านไปต้องการเปลี่ยนใหม่ต้องทำการรื้อถอนวอลเปเปอร์ของเดิมออก ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยาก หรือแม้แต่ผนังที่บุด้วยผ้าก็มีปัญหาใกล้เคียงกับวอลเปเปอร์ ซึ่งท่านสามารถอ่านถึงปัญหาการใช้วอลเปเปอร์ที่ที่ลิ้งค์นี้ >> (คลิกที่นี่) หรือผนังกระเบื้องเองก็ไม่ยืดหยุน สู่ตัวเลือกการตกแต่งผนังที่ดีกว่า จากปัญหาดังกล่าว จึงเป็นที่มาของสีสร้างลวดลายวอลเปเปอร์ สีสูตรพิเศษกว่าสีทาภายในทั่วไป รวมกับเทคนิคของการสร้างลวดลายแบบต่างๆ สามารถสร้างลวดลายคล้ายกับวอลเปเปอร์ได้ และมีคุณสมบัติต่างๆเช่น ไม่เกิดปัญหาเชื้อรา เมื่อเกิดคราบสกปรกบนผนังสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และเมื่อต้องการลวดลายใหม่สามารถทาทับสีเดิมได้โดยไม่ต้องลอกหรือทำการขูดสีเดิมออกก่อน สีสร้างลวดลายจาก TOA ตัวช่วยที่สมบูรณ์แบบ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาด้านต้น หลากลายแบรนด์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สีสร้างลวดลายออกมาในแบบต่างๆ เพื่อตรงความต้องการกับผู้บริโภค ซึ่ง TOA ก็เป็นหนึ่งในนั้น และบทความนี้เราขออนุญาติเสนอสีสร้างลวดลายของทีโอเอให้ทราบครับ ท่านสามารถเข้าชมข้อมูลเต็มของผลิตภัณฑ์ได้ที่ >> (คลิก) สีสร้างลายของ TOA สามารถเลือกจับคู่สีเองได้มากมาย ทั้งยังสร้างลวดลายได้อย่างหลากหลาย หากจะหยิบมาเขียนให้หมดคงต้องเขียนเป็นพันหัวข้อเป็นแน่แท้ ดังนั้นในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกับตัวอย่างลายและสีที่ทาง TOA ยกตัวอย่างมา 5 ลายให้พอเป็นไอเดียกันครับ ส่วนลายและสีทีเห็นด้านบนนี้เป็นการสร้างสรรค์ที่ผู้ออกแบบและช่างสีได้สร้างสรรค์กันขึ้นมาเอง โดยหลักการของสีสร้างลายนั้นประกอบไปด้วยสีและแปรงที่ทำให้เกิดลวดลายและสีที่แตกต่าง สำหรับสีนั้นประกอบไปด้วย Supershield Décor สีทาอาคารภายในสูตรน้ำ ทนทานนานถึง 10 ปี ไร้เชื้อราและรอยต่อ ซึ่งจะใช้กี่ตัวนั้นขึ้นอยู่กับลวดลายที่จะสร้าง เราแนะนำให้ท่านกดเข้าไปดูแบบเต็มๆได้ในลิงค์นี้ครับ >>> (คลิก) โดยในครั้งนี้เรามีตัวอย่างผนังหัวเตียงห้องนอนของคุณ Athiwat T. บรรณาธิการของเราที่ได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ Supershield Décor โดยเลือกเป็นลายผ้าไหมครับ จากด้านบนเป็นตัวอย่างคร่าวๆ ซึ่งถ้าเข้าไปดูในแคตาลอคเต็มที่เป็นไฟล์ PDF ตามลิงค์ด้านบนท่านจะชมได้อย่างจุใจมากกว่านี้…
โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เชิญท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์อาหารมื้อพิเศษ จากฝีมือเชฟเจมส์ โนเบิล ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านอาหารรางวัลมิชลินระดับ 2 ดาว จากประเทศอังกฤษ ผู้ที่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรทำฟาร์มออแกนิคในจังหวัดเชียงใหม่ ที่รู้จักกันดี ฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) เชฟเจมส์ เป็นผู้ก่อตั้งฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) ออแกนิคฟาร์มเต็มรูปแบบ มีการนำเอาผลผลิต และวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากฟาร์มมาใช้ในการทำอาหาร ในคอนเซ็ป ” จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร” โดยคำนึงถึงความใส่ใจธรรมชาติอย่างยั่งยืน ในส่วนของเมนูนั้น จะนำเสนอในรูปแบบเมนูสีขาว (White menu) โดยเชฟเจมส์และทีมงานเชฟจะรังสรรค์เมนูออกมาเป็นอาหารจานต่างๆ ตามวัตถุดิบสดใหม่ที่ดีที่สุดโดยส่งตรงมาจากฟาร์มออริจินในแต่ละวัน พบกับเชฟเจมส์ได้ที่ห้องอาหารแซฟฟรอน โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2563 ราคาสุทธิ 5,999 บาท สำหรับ 2 ท่าน แพกเกจรวม – มื้อค่ำโดยเชฟเจมส์ โนเบิล สำหรับ 2 ท่าน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) – ห้องพักประเภทฮอไรซอน 1 คืน (ไม่รวมอาหารเช้า) – บัตรเข้าชม ฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) ที่จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับ 2 ท่าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ +66 2679 1200 หรือ [email protected] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) https://www.ori9inthegourmetfarm.com/ Kin News Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง…
Tea : Mariage Frères Date : Nov 2020 Story : Nathapol K. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. วันนี้ KINLAKESTARS.COM จะขอเชิญทุกท่านไปจิบน้ำชายามบ่ายที่ เดอะ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ อีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าจะไปเยี่ยมเยือนเมื่อใด ก็ยังคงตื่นตาตื่นใจกับจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมอันแสนวิจิตรงดงามที่ศิลปินได้บรรจงสรรสร้างขึ้นมาทุกครั้ง ปกติแล้ว อาฟเตอร์นูนที ที่ เดอะ ล็อบบี้ ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเมนูขนมคาวหวานไปตามช่วงเวลาหรือเทศกาลพิเศษอยู่เสมอ ๆ ซึ่งในช่วงเวลานี้จะอยู่ในธีม Chocolate Temptation Afternoon Tea เอาใจสายช็อคโกแลตเลิฟเวอร์ ให้ได้ลิ้มรสช็อคโกแลตเกรดพรีเมี่ยมกันอย่างเต็มที่ โดยเมื่อก้าวเข้าไปภายในบริเวณร้านก็จะพบกับ chocolate fondue fountain ตั้งอยู่ด้านหน้าอย่างยิ่งใหญ่อลังการ คอยให้ทุกท่านได้มาสนุกสนานเพลิดเพลินกับการดิปช็อคโกแลต ถัดไปเป็นส่วนของขนม ก็จะมีไลน์ที่เป็นช็อคโกแลตล้วน ๆ ทั้งแบบบาร์แบบแผ่น ทั้งไวท์ช็อค ดาร์คช็อค ก็มีหมด และขนมอื่น ๆ ก็มีส่วนที่ใช้ช็อคโกแลตเป็นส่วนประกอบตามธีมอีกด้วย ซึ่งจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป เชื่อว่าคงถูกใจคนรักช็อคโกแลตอย่างแน่นอน ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของอาฟเตอร์นูนที ที่ เดอะ ล็อบบี้ ก็คือเมนูเครื่องดื่มประเภทชา ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นชา Mariage Frères ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชาอันดับ 1 ของโลก โดยจากเดิมที่มีมากถึง 12 กลิ่น ซึ่งจะมี special blend ที่มีเสิร์ฟเฉพาะที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ก็คือ ELÉPHANT BLANC, LUNE ROUGE และ TEMPLE DE L’AUBE ตามที่ทางเพจได้เคยรีวิวมาแล้ว (สามารถย้อนไปอ่านรายละเอียดการรีวิวครั้งก่อนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kinlakestars.com/afternoon-tea-lobby-anantara-siam-review-416/) ซึ่งนับว่าสเปเชี่ยลมาก ๆ อยู่แล้ว แต่ในครั้งนี้มีความพิเศษมากขึ้นไปอีก เนื่องจาก Mariage Frères…
เพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มที่เสิร์ฟแบบไม่จำกัด กับ“ซันเดย์บรั้นช์ที่ดีที่สุดในกรุุงเทพฯ” ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ใน นิตยสาร คอนเด นาสต์ ทราเวลเลอร์ (Conde Nast Traveler) บุุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติเน้นคุณภาพ ในช่วงมื้อสายวันอาทิตย์ พร้อมเครื่องดื่มหลากหลายชนิด และแชมเปญระดับพรีเมียม โมเอต์ เอต์ ชองดง (Moët & Chandon) ฟังเพลงชิลๆ กับวงดนตรีเล่นสด สร้างบรรยากาศแห่งความสุขกับเพื่อนๆและครอบครัว และเพิ่มความพิเศษกับซุ้มร้านอาหารสตรีทฟู้ดมิชลินไกด์และร้านชื่อดังที่จะหมุนเวียนมาในแต่ละสัปดาห์ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ ครัวพรละมัยร้านกระทะร้อน ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช ฯลฯ ซันเดย์บรั้นช์ ที่เลื่องชื่อและเป็นตำนานของโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เป็นเวลานานกว่าทศวรรษ ลิ้มรสอาหารนานาชาติ ที่คัดสรรเมนูอาหารจานเด่นจากห้องอาหารต่างๆ ของทางโรงแรมฯ มารวมกันไว้ให้ท่านได้อิ่มอร่อยกับทุกเมนูภายในมื้อเดียว ทั้งเมนูซีฟู้ดคุณภาพพรีเมี่ยม อาหารยุโรป บีฟเวลลิงตัน และสเต๊กเนื้อคุณภาพนำเข้าจากห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ นอกจากนี้ยังมี เทมปุระ ซูชิ ซาชิมิ ปลาดิบคุณภาพเยี่ยมจากห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร่ อาหารไทยยอดนิยม ผัดไทย ส้มตำ จากห้องอาหารไทยสไปซ์ มาร์เก็ต และพาสต้า รีซอตโต ตำรับอิตาเลียน จากห้องอาหารบิสก็อตติ รวมทั้งโคลด์คัท ชีส และอาหารจีน อาทิ เป็ดปักกิ่ง หมูแดง ให้ได้เลือกสั่งได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีขนมหวานนานาชนิด อาทิ ช็อคโกแลตโดม ไอศกรีมโฮมเมด ฯลฯ เครื่องดื่มทั้งน้ำผลไม้ เบียร์ แชมเปญ ไวน์ ค็อกเทลนานาชนิด ให้เลือกดื่มได้อย่างไม่จำกัด ให้ท่านได้สังสรรค์พร้อมครอบครัวและมิตรสหายที่รู้ใจ ในวันอาทิตย์ สบายๆ ระหว่างเวลา 11:30 – 15:00 น. ในห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ หรือนั่งรับลมในบรรยากาศวิวสวนสวยของ อควา บาร์ ซันเดย์บรั้นช์แพ็คเกจ ราคา 2,200 ++ บาทต่อท่าน รวมน้ำผลไม้ ชา กาแฟ และซอฟท์ดริงค์ พิเศษลดราคา 50% สำหรับเด็กอายุ…
ห้องอาหารบูล แอนด์ แบร์ สเต็กเฮ้าส์สไตล์อเมริกันสุดหรู บนชั้น 55 ของโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เปิดให้บริการเป็นพิเศษในช่วงกลางวันตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2564 อิ่มอร่อยกับอาหารจานเด่นของห้องอาหารบูล แอนด์ แบร์ โดยเชฟแดเนียล มาสเตอร์ หัวหน้าเชฟ ประจำห้องอาหาร ในราคาเริ่มต้นที่ 900++ บาท – 1,800++ บาท สำหรับชุดอาหารกลางวันจำนวน 3 คอร์ส (ไม่รวมเครื่องดื่ม โดยราคาของอาหารขึ้นอยู่กับอาหารจานหลักที่เลือก) อาทิ ซีซ่าร์สลัดสไตล์บูล แอนด์ แบร์ บีฟ ทาร์ทาร์ เนื้อวัวดิบปรุงรสเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง บูล แอนด์ แบร์ เบอร์เกอร์ แฮมเบอร์เกอร์เนื้อสุดพรีเมี่ยมเสริ์ฟพร้อมสลัด หรือเฟรนฟราย สเต็กเนื้อแกะ สเต็กเนื้อ ของหวาน อาทิ สโมค เบอเบริน ชีสเค้ก เสริ์ฟพร้อมไอศกรีมช๊อกโกแลต และอื่นๆอีกมากมาย พิเศษสำหรับวันเสาร์ และอาทิตย์ พลาดไม่ได้กับอาหารจานพิเศษที่เหมาะกับการทานด้วยกัน 2 ท่านขึ้นไป กับจานรวมเสต็กเนื้อสุดพรีเมี่ยม (Wood fire grilled carnivore tasting plate) ราคา 2,100++ ต่อท่าน (รวมอาหารเรียกน้ำย่อย และของหวาน) และเมนูจานรวมอาหารทะเล (Seafood on Ice) ในราคาพิเศษ 900++ ต่อท่านสำหรับจานเดี่ยว เมื่อสั่งพร้อมอาหารแบบชุด พร้อมให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 11:30 น. – 14.00 น. ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคมศกนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 02 846 8888 หรือ [email protected] หมายเหตุ: ราคาอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวไม่รวมค่าบริการ 10%…
หากใครเคยได้มา Sunday brunch ของ up and Above ณ The Okura Prestige แล้วนั้น ท่านจะทราบถึงคุณภาพและรสชาติที่ดีมากของอาหารและเครื่องดื่ม แต่ทว่าในมื้อส่งท้ายวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ (Up & Above Restaurant) ได้รังสรรค์รูปแบบการให้บริการอาหารที่แปลกใหม่กว่าที่เคยมีมา ของเดิมที่ดีอยู่แล้วก็มีต่ออย่างครบครัน แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ Mini tasting Menu แบบ Fine dining ให้เป็นวันหยุดอันแสนประทับใจ ที่กลับมาเปิดให้บริการบุฟเฟต์มื้อสายวันอาทิตย์ (Sunday Brunch) อีกครั้ง โดยมื้ออาหารยอดนิยมสำหรับครอบครัวที่คนกรุงเทพฯ ชื่นชอบ ให้บริการทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. การจัดความห่างโต๊ะอย่างพอเหมาะทำให้ความเป็นส่วนตัวของแขกมีมากพอในระดับที่น่าพอใจ ด้วยบรรยากาศที่สูงโปร่งด้วยเพดานทีมีความสูงถึงระดับ 2 ชั้น พร้อมกับกระจกผืนใหญ่ที่วางตัวเป็นแนวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ที่ทำให้ทุกท่านสามารถดื่มด่ำทัศนียภาพของกรุงเทพฯมุมกว้างได้ไปพร้อมกับกินอาหารเลิศรส คุณภาพสูง ทั้งการปรุงและวัตถุดิบที่เลือกสรรมาอย่างดี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า Sunday brunch ของ The Okura Prestige, Up and Above มีอาหารนานาชาติหลากหลายเมนูให้คุณได้เลือกรับประทานอย่างไม่จำกัด โดยเชฟได้คัดสรรเมนูน่ารับประทานหลากหลายสัญชาติมาให้บริการแก่ทุกท่าน ทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารอเมริกัน อาหารฝรั่งเศส อาหารไทย และอาหารจานหลักปรุงจานต่อจานให้บริการถึงโต๊ะ อาหารจานหลักปรุงจานต่อจานให้บริการถึงโต๊ะ ตับห่านย่างเสิร์ฟกับขนมปังโยโมจิ ล็อบสเตอร์จากแคนาดาย่าง (1 ที่ ต่อท่าน) นอกจากนั้นยังมีอาหารที่เชฟจะรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบตามฤดูกาลเพื่อให้บริการเป็นอาหารพิเศษประจำแต่ละสัปดาห์ ปรุงสดจานต่อจานให้บริการทุกท่านถึงโต๊ะ เช่นหอยเชลล์อบครีมซอสดอกกะหล่ำ ปลากระพงแดงอบราดซอสไวน์ขาวผสมมิโซะ เนื้อปลาแซลมอนลวกสุกเสิร์ฟกับน้ำซุปดาชิและวาซาบิ ริซอตโต้เห็ดนาเมโกะ เนื้อสันในแกะย่างกับเห็ดชิตาเกะ โดยมีไฮไลท์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง เนื้อวากิวย่างเสิร์ฟกับซอสยากินิคุ หอยนางรมสด ๆเสิร์ฟกับแตงกวาดองและซอสพอนซึ ท้องปลาแซลมอนซาซิมิกับซอสโชยุ โทโร่มาริเนทกับเมแรงซอสโชยุและงาขาวกับโนริย่าง กุ้งฝอยกับแผ่นแป้งลักษณะทาร์ท มูสเค้กที่ทำลักษณะภายนอกเป็นส้มเขียวหวาน ครีมส้ม และไส้ตรงกลางเป็นซอสส้ม…
ครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ กับสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังในประเทศไทย เตรียมพบกับงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 21 งานยิ่งใหญ่ประจำปีที่รวบรวมสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก เมนูชั้นเลิศ อาหารและไวน์ชั้นเยี่ยม ตั้งแต่วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ที่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ปีนี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ได้เชิญเชฟระดับมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังที่ได้รับรางวัลรับรองฝีมือและรสชาติอาหาร ในระดับสากล ซึ่งพำนักในประเทศไทย มาร่วมกันรังสรรค์ประสบการณ์ในการรับประทานอาหารในรูปแบบใหม่ อาทิ รับประทานอาหารไทยร่วมกับอาหารตะวันตก ซันเดย์บรั้นช์ที่ยาวนานสุดถึง 5 ชั่วโมงครึ่ง สัมผัสวัฒนธรรมการรับประทานอาหารจากทั่วโลกด้วยฝีมือของ 5 ครอบครัวของผู้ลี้ภัย ผู้หลงใหลในการทำอาหาร โดยเชฟที่ยืนยันมาร่วมงานทั้งหมด ได้แก่ เชฟกากั้น อนันต์ (Gaggan Anand) จากร้านอาหารGAGGAN ANAND ผู้รั้งตำแหน่งมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวเชฟอเมริโก้ เซสทิ (Amerigo Sesti) จากร้านอาหาร แฌม บายฌองมิเชล โลรองต์ (J’AIME by Jean-Michel Lorain) ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาวเชฟการิมา อโรรา (Garima Arora) จากร้านอาหาร GAA ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว · เชฟ อิโนะอุเอะ มานาบุ (Inoue Manabu) จากร้านอาหาร Ginza Sushi Ichi, Bangkok ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เชฟแอนดี้ ริคเกอร์ (Andy Ricker) เชฟชาวอเมริกันผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย เจ้าของร้านป๊อก ป๊อก (Pok Pok) ร้านอาหารไทยชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ผู้รั้งตำแหน่งมิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาวเชฟวิชิต มุกุระ และ เชฟเกวลิน พิทยานุกุล จากร้านอาหารรอยัล โอชา Royal Osha ซึ่งได้มิชลินเพลทเชฟอเลสซิโอ บานเชอโร่ (Alessio Banchero) จากห้องอาหารบิสก็อตติ Biscotti ซึ่งได้มิชลินเพลทเชฟ คาวากุชิ ไดกิ (Kawaguchi Daiki) จากร้านอาหาร Ginza Tenharu, Bangkokเชฟพิสิษฐ์ จิโนปง และ เชฟริค ดินเก้น (Rick Dingen)จากอนันตรา โฮเทลส์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ประเทศไทยฉ่อยเป็ดย่าง ร้านสตรีทฟู้ด ซึ่งได้มิชลินไกด์ รางวัล Bib Gourmand (บิบ กูร์มองด์)ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช (Yaowarat Toast) ร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังนิ-อ่าง น้ำแข็งไส ไอศครีม ร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังสรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทย ร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังกลุ่ม Na Projects : 5 ครอบครัวจาก เอธิโอเปีย ปากีสถาน ปาเลสไตน์ ศรีลังกา และเวียดนาม ในเทศกาลครั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน โดย เชฟกากั้น อนันต์ ผู้ที่โด่งดังด้านอาหารอินเดียสไตล์โปรเกรสซีพ และเคยครองแชมป์อันดับ 1 จากการประกาศผล Asia’s 50 Best Restaurants ติดต่อกันถึง 4 สมัย ครั้งนี้เขาจะรังสรรค์เมนูดินเนอร์สไตล์ฝรั่งเศส 18 คอร์ส สุดพิเศษ เพียงงานนี้เท่านั้น! เชฟกากั้น ผู้รั้งตำแหน่งเชฟมิชลินระดับ 2 ดาว เคยมีความฝันที่จะเป็นเชฟด้านอาหารฝรั่งเศส…