Author: Kittin Assavavichai

สำรับไทย รสแท้ รสแม่ทำ  คำทุกคำ ใส่ใจ ใส่จานผจง  บรรจงเจิม ด้วยรสดี รสเดิม เริ่มดื่มด่ำ สำรับไทย รสแท้ รสแม่ทำ คำทุกคำ ใส่ใจ ใส่จานผจงSaneh Jaan สำรับพิเศษ “รสแท้ รสมือแม่” พร้อมส่งตรงถึงมือคุณแล้ววันนี้ ทั้งยังคงคุณภาพและคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ให้คุณได้สัมผัสรสชาติ อาหารไทยแท้ ครั้งเยาว์วัย ที่เชฟเสน่ห์จันทน์ให้ความสำคัญไม่ว่าจะเป็นสูตรและเครื่องปรุงแบบโบราณ อีกทั้งเครื่องแกงทำเอง ทุกขั้นตอน สำรับพิเศษจากครัวเสน่ห์จันทน์ ➢ สำรับข้าวมันส้มตำ ข้าวมันส้มตำ หมูฝอย แกงเขียวหวานไก่ , ถุงทองไส้ไก่ , ไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตื้อ Set of Papaya Salad and Rice Cooked in Coconut Milk Papaya Salad with Rice Cooked in Coconut Milk, Shredded Pork, Green Curry with Chicken. ,Fried Dumpling with Chicken Filling , Four Traditional Dessert Price 850 Baht / for 2 person  ➢ สำรับขนมจีนน้ำพริก ขนมจีนน้ำพริก กับผักเคียง , หรุ่มไส้ไก่ , ข้าวเหนียวสี่หน้า Set of Vermicelli Noodles with Shrimp and Peanut Curry Vermicelli Noodles…

Read More

สั่งอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะจากเมนูของซูม่า รับประทานได้อย่างสะดวกสบายที่บ้านหรือในห้องพักโรงแรม ซูม่า กรุงเทพฯ แนะนำบริการใหม่ที่แขกสามารถสั่งเมนูโปรดไปรับประทานที่บ้านได้แล้วผ่านบริการ #BringZumaHome (บริง ซูม่า โฮม) ให้ทุกท่านสามารถอิ่มอร่อยกับมื้ออาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยที่บ้านหรือภายในในห้องพักโรงแรมเดอะเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ  รายการอาหารสำหรับรับประทานนอกร้านของซูม่า กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยเมนูแสนอร่อยมากมายจากเมนู อะ ลา คาร์ท ปกติของร้าน รวมไปถึงเซ็ตเมนูสำหรับมื้อเที่ยงและมื้อเย็นที่ออกแบบมาอย่างประณีตเพื่อมอบประสบการณ์รับประทานอาหารสไตล์ซูม่าที่บ้านหรือที่ทำงานของคุณ สามารถติดต่อสั่งและรับอาหารไปรับประทานที่บ้านได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 11:30 – 21:00 น.โดยสามารถติดต่อสั่งอาหารได้ที่โทร. 02 252 4707 หรือไลน์ไอดี @zumabangkok และชำระค่าอาหารผ่านบัตรเครดิตทันทีที่สั่งอาหารหรือจ่ายด้วยเงินสดเมื่อมารับอาหารที่ร้าน นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการผ่านแกร็บเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย ซูม่า กรุงเทพฯ ยังร่วมมือกับโรงแรมเดอะเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เพื่อมอบดินเนอร์สุดผ่อนคลายในห้องพักหรูหราและสะดวกสบายของโรงแรม ซึ่งแขกที่สั่งอาหารผ่านบริการ บริง ซูม่า โฮม สามารถเข้าพักค้างคืนได้ฟรี 2 ท่าน ในห้องพักแบบแกรนด์ ดีลักซ์ สวีท โดยสั่งเซ็ตเทสติ้งเมนู 2 ท่านขึ้นไป จนถึง 10 ท่าน พร้อมตัวเลือกเครื่องดื่มเสิร์ฟถึงห้องพักโดยพนักงานของห้องอาหารซูม่า กรุงเทพฯ พร้อมด้วยเพลย์ลิสต์เพลงจากทางร้านเพื่อสร้างค่ำคืนที่น่าประทับใจ ประสบการณ์การรับประทานอาหารเหนือระดับนี้สามารถจองได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 18:00-22:30 น. ในระหว่างนี้ ซูม่า กรุงเทพฯ ยังเปิดบริการให้รับประทานอาหารที่ร้านเป็นปกติตั้งแต่เวลา 11:30–21:00 น. ในวันจันทร์-เสาร์ และ 11:00– 21:00 น. ทุกวันอาทิตย์ พร้อมมาตรการเว้นระยะห่างและการรักษาความสะอาดตามแนวปฎิบัติอย่างเคร่งครัด ซันเดย์ บรันช์ บรันช์ที่ยาวนานที่สุดของกรุงเทพฯ ที่ทุกท่านชื่นชอบพร้อมพื้นที่สำหรับเด็ก ก็ยังเปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 11:00-15:00 น. โดยช่วงนี้จะไม่มีการจัดไลน์บุฟเฟ่ต์ แต่แขกสามารถสั่งอาหารจากเมนูได้ไม่อั้นและให้พนักงานนำไปเสิร์ฟถึงที่อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องลุกจากโต๊ะ ราคาเริ่มต้น 2,180 บาทต่อท่านรวมอาหารและซอฟท์ดริ้งค์ เด็กอายุ 0-10 ปีราคา 1,080 บาทต่อท่านสามารถสั่งอาหารจากเมนู และอร่อยกับจานหลักในปริมาณเสิร์ฟของเด็ก หรืออุด้งไก่ร้อน เด็กอายุตั้งแต่ 0-3 ปีรับประทานฟรี Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร…

Read More

ตามรอยตำรับชาววัง มนต์เสน่ห์ข้าวแช่   กับเทศกาลข้าวแช่ที่ อีทไทย  Eathai(อีทไทย)ที่สุดแห่งอาณาจักรอาหารไทย…ใหญ่สุด…มากสุด…ครบสุด   Eathai (อีทไทย) ที่สุดแห่งอาณาจักรอาหารไทย…ใหญ่สุด…มากสุด…ครบสุด  ต้อนรับหน้าร้อนด้วยเมนูค ลายร้อนหนึ่งปีมีครั้งเดียว กับเมนูสุดพิเศษ “ข้าวแช่ ตำหรับชาววัง” สูตรต้นตำรับชาววัง สำหรับไฮไลต์สุดพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่ส่วนผสมและเครื่องเคียงต่างๆ ที่ผ่านกรรมวิธีสุดพิถีพิถัน เริ่มที่ ข้าวแช่ชาววัง เลือกใช้ข้าวหอมมะลิเก่า ตัวเม็ดข้าวสัมผัสกำลังดี ไม่อ่อนนุ่มเกินไป ลอยน้ำมะลิ และกระดังงา กลิ่นหอมสดชื่น พร้อมด้วยเครื่องเคียงไม่ว่าจะเป็น พริกหยวกสอดไส้กุ้งหมูสับ ใช้พริกหยวกนึ่งให้นุ่ม เนื้อกุ้งสดอย่างดีผสมกับหมูสับ ผัดด้วยเครื่องเทศทำให้มีกลิ่นหอม ไข่ฝอยห่อพริกหยวก ใช้ไข่ทั้งฟองตีให้เข้ากันแล้วนำไปทอดจนเกาะกันเป็นแพสวยงาม กะปิหวาน เลือกใช้กะปิกึ่งเค็ม กึ่งหวานอย่างดี ผัดด้วยกระชาย เนื้อปลา และตะไคร้ หมูเส้นทอดกรอบ หมูสันในอย่างดีนำไปต้มฉีกฝอย แล้วทอดกรอบจนสีทองสวยน่ารับประทาน ปลายี่สนหวาน ผัดด้วยเครื่องเทศไทย และน้ำตาลให้หอมเป็นปึกเดียวกัน   ไชโป๊วหวาน นำไปล้างน้ำจนหายเค็ม แล้วผัดด้วยน้ำตาลโตนด ใส่ดอกเกลือตัดรสหวานเพื่อไม่ให้รสชาติโดดจนเกินไปและยังมีเครื่องเคียงที่ช่วยเพิ่มความอร่อยอีกมากมายเช่น ต้นหอม, กระชาย, มะม่วงดิบ, แตงล้าน และแครอท สำหรับวิธีการรับประทาน ถ้าจะให้ถูกหลักและเพิ่มความอร่อยแนะนำให้เริ่มด้วยตักข้าวใส่ลงไปในน้ำ โดยตักข้าวมาแค่ประมาณ  ¼ ของถ้วย สัดส่วนน้ำควรมากกว่าข้าว หลังจากนั้นให้ใส่น้ำแข็งตามชอบ เวลารับประทาน ควรรับประทานเครื่องเคียงก่อน ตามด้วยข้าว และน้ำลอยดอกไม้  และหากจะเปลี่ยนเครื่องเคียง แนะนำให้รับประทานผักก่อน เพื่อล้างรสชาติเดิมออกไป อีกหนึ่งคล็บลับเพิ่มความอร่อย คือ ลูกกะปิควรรับประทานคู่กับมะม่วงรสเปรี้ยว เพราะจะทำให้ได้รสชาติหวานเข้ากันกำลังดี ส่วนกระชายอ่อนควรรับประทานคู่พริกหยวกสอดไส้ จะช่วยเพิ่มความหอมของเครื่องเคียงได้ดี   นอกจากนี้ยังมีเมนูดับร้อนให้เลือกรับประทานอีกมากมาย ทั้ง มะยงชิดลอยแก้ว รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ สดชื่นคลายร้อน ต่อด้วยขนุนสอดไส้ข้าวเหนียวมูล ขนุนสุกชิ้นใหญ่ ด้านในสอดไส้ด้วยข้าวเหนียวมูนสูตรพิเศษจากอีทไทย รสชาติหวานหอมมันกำลังดี ให้ความประทับใจตั้งแต่คำแรกที่รับประทาน นอกจากนี้ยังมีเมนู แตงโมปลาแห้ง เมนูที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งนิยมรับประทานเป็นอาหารว่างช่วงหน้าร้อนไม่แต่เพียงเท่านี้ยังมีเมนูคลายร้อนให้เลือกรับประทานอีกมากมาย อาทิลูกตาลลอยแก้ว ,ฟักทองสังขยา, ข้าวเหนียวแก้ว, ทับทมกรอบและซาหริ่ม เป็นต้น พบกับความอร่อยแบบไทยแท้กับ เทศกาลข้าวแช่ และเมนูของหวานดับร้อนที่อีทไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.…

Read More

วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปชิมเซตเมนูอาหารเย็นเมนูใหม่ที่ปรุงและรังสรรค์โดย Chef เติ้ลหัวหน้าเชฟ ณ ห้องอาหาร Water Library สาขาจามจุรีสแควร์ ราคาของ Dinner Set ใหม่ที่เน้นความสดชื่น มีความซับซ้อนแต่เข้าใจง่าย ใน Dinner Wine Pairing 6 CoursesDr. Athiwat T. ชื่อร้านก็บอกแล้วว่าเป็นห้องสมุดน้ำแร่ เป็นแหล่งรวมของน้ำแร่นานาชนิดทั่วทุกมุมโลก เมื่อเดินเข้าไปในร้านจะพบกับเคาเตอร์ขนาดใหญ่ และชั้นเรียงสูงที่แต่ละชั้นเรียงรายไปด้วยขวดน้ำแร่แต่ละยี่ห้อ หลากหลายชนิด อยู่ตรงกลางห้อง ร้านอาหารออกแบบให้เพดานสูง โปร่ง โต๊ะอาหารจะวางเป็นแนวครึ่งวงกลมติดกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอก ร้านจะใช้โทนสีขาว ดำ ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศที่ทันสมัย หรูหรา ภาพงานศิลป์รูปนกต่างๆที่ใส่กรอบประดับอยู่ตามห้องอาหารนั้น เป็นรูปวาดนกที่วาดจากนกที่ล่ามาด้วยความภาคภูมิใจ ถ่ายทอดเป็นภาพวาด โดยศิลปินชาวอเมริกัน เมื่อถึงที่นั่ง พนักงานจะนำผ้าเช็ดมือมาบริการให้ โดยจะมาในรูปแบบคล้ายนมอัดเม็ด วางบนถาดหิน เมื่อพนักงานเทน้ำลงไป ผ้าเช็ดมือจะยืดตัวขึ้น จากนั้นสามารถคลี่ออกมาเป็นแผ่นและเช็ดมือได้ Degustation Menu Snack / ของว่าง a little welcome อมูชบูชเป็นหนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการกิน Fine Dining เป็นองค์ประกอบที่ดูเล็กน้อย แต่ขาดไม่ได้ เริ่มเปิดเพดานรับรสกันด้วยของจิ๋วๆแสนอร่อยทั้ง 4 ชิ้น ซึ่งให้บริการมาในถ้วยที่เต็มไปด้วยถั่วดำเป็นฐาน เริ่มจากซ้ายล่าง ออชเตต้าคาร์เวียเป็นตัวชูโรง สีดำวาวรสมันเค็มผสานกับไข่ขาวไข่แดง และ shallot องค์ประกอบต่างๆรสเบาๆให้เพียงสัมผัสจึงไม่แย่งความโดดเด่นของคาเวียร์ ต่อมาตามด้วย เป็ดตุ๋นเชอร์รี่ – one bite เพียงคำแรก รสเป็ดมาเต็มแม้เป็นชิ้นเล็กๆ ชูรสด้วยมูสกระเทียมดำตกแต่งด้วยดอกไม้เล็กๆแสนน่ารัก คำต่อมาเป็นปลาเทร้า วาซาบิ ในกระทง : รสวาซาบิแบบอ่อน ๆ ได้กลิ่นเบาไม่ฉุน พอให้ตัดกับครีมนุ่มๆ เสริมรสให้ปลาเทร้า มีความเอเชียนทวิสอย่างชัดเจน และคำสุดท้ายคือ octopus garlic rice crisp sour cream – หนวดปลาหมึกเนื้อแน่นแต่ไม่เหนียว นุ่มหนึบ ผสานกับผิวข้าวเกรียบกรุบกรอบและบางเบาเข้ากับซอสซาวครีมและกระเทียมได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้จะไล่เรียงรสชาติจากเบาไปหนัก…

Read More

สดชื่น คลายร้อน กับ “ข้าวแช่ต้นตำรับชาววัง” สูตรลับเฉพาะที่ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ ตลอดเดือนเมษายนนี้ Kinlakestars.com ขอเชิญชวนทุกท่านมาคลายร้อนด้วยของว่างสไตล์ไทยๆ กับ “ข้าวแช่ต้นตำรับชาววัง” เสิร์ฟข้าวหอมมะลิออร์แกนิก อบด้วยควันเทียนจนหอม พร้อมความเย็นสดชื่นจากน้ำลอยดอกมะลิและดอกชมนาด ทานคู่กับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด อาทิ ลูกกะปิทอด หอมแดงยัดไส้ชุบไข่ทอด พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอยหรือเนื้อฝอยผัดหวาน ปลายี่สนหรือปลาช่อนทอดผัดหวาน และไชโป๊ผัดหวาน • สั่งทานที่ร้าน ชุดละ 520 บาทสุทธิ• เซตตะกร้าหวายพรีเมี่ยม ชุดละ 750 บาทสุทธิ สามารถสั่งซื้อหรือทานได้ที่ ซัฟไฟร์ บาร์ ตั้งแต่เวลา 11.30 – 16.00 น.02 247 0123 ต่อ 1811 เป็นตำรับอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ โดยชาวมอญ นิยมทำขึ้นเพื่อถวายทวยเทพในเทศกาลตรุษสงกรานต์ โดยทำถวายแด่พระสงฆ์ และนำไปให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ข้าวแช่ได้แพร่มาสู่สำรับไทย และเริ่มเข้าสู่สำรับชาววัง เมื่อสตรีชาวมอญได้เข้ารับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน จึงได้ปรุงข้าวแช่เพื่อถวายต่อมา ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ผู้ที่เคยทำงานห้องเครื่องต้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้นำข้าวแช่ออกสู่ตลาด จึงทำให้ได้รับความนิยมโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน ข้าวแช่ของรร.สุโกศลเป็น ข้าวแช่ชาววัง สูตรต้นตำรับ หม่อมหลวงเติบ ชุมสาย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารไทย และเป็นผู้นำการเผยแพร่อาหารไทย น้ำข้าวแช่ การทำน้ำข้าวแช่ในสมัยก่อนใช้น้ำฝนใส่ในโถดินเผา เก็บไว้ในที่ร่มและเย็นชื้น ปัจจุบันใช้น้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อและใช้ดอกชมนาดทำน้ำดอกไม้สดจะถือว่าเป็นที่สุด เพราะมีกลิ่นหอมเหมือนใบเตยผสมข้าวใหม่ หรือใช้กุหลาบมอญหรือดอกมะลิจากนั้นอบด้วยเทียนหอม ตัวข้าวแช่ ของที่นี่เขาจะใช้ข้าวออแกนิค ต้มน้ำให้เดือด ใส่มะนาวแทนน้ำส้ม แล้วนำข้าวใส่ลงไปตอนน้ำเดือดแล้ว น้ำมะนาวทำให้เม็ดข้าวขาวใส และสิ่งสกปรกตกตะกอน ต้มจนได้ที่แล้วเอาข้าวมาขัดเบาๆให้เมือกออกในน้ำเย็น  จากนั้นนำมาผึ่งให้แห้งแล้วอบด้วยควันเทียน หอมยัดไส้ สำหรับหอมยัดไส้ของที่นี่จะไม่เหมือนใครที่ไหนอื่น เพราะไส้ของตัวหอมยัดไส้ทำจากหมูหยองผสมกับกะปิและปรุงด้วยสามเกลอได้แก่ เกลือ รากผักชี และพริกไทย จากนั้นยัดใส่หอม และชุบไข่จากนั้นจึงนำไปทอด พริกหยวกสอดไส้ ห่มสไบกรองทอง ใช้หมูติดมัน รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกรวมกับเกลือจนเนียน ใส่ไข่ไก่ นำไปยัดในพริกหยวกที่คว้านเม็ดออกแล้ว…

Read More

ข้าวแช่ อาหารที่มาคู่กับฤดูร้อน อันเป็นที่ได้รับความนิยมยิ่ง ให้ทั้งความดับร้อน สดชื่น และเป็นของเฉพาะฤดู แน่นอนว่าทั้งรส ทั้งกลิ่นที่หอมสดชื่น และขั้นตอนการทำที่ยากและสลับซับซ้อน อีกทั้งการเตรียมเครื่องที่วุ่นวายอยู่พอควรจึงทำให้เป็นอาหารที่ไม่ได้มีขายในทุกที่และในครั้งนี้ Kinlakestars จึงขอแนะนำข้าวแช่เด็ดจากทั่วกรุงฯ เดิมทีนั้นจากเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา กษัตริย์มอญผู้ซึ่งยังไม่มีบุตรเพื่อสืบบัลลังก์เสียที จนกระทั่งได้ทำการบนบานกับศาลเทวดาแห่งหนึ่งอันศักดิ์สิทธิ์จนสมหวัง จึงได้ทำเครื่องเซ่นไหว้มาถวาย เครื่องเซ่นเหล่านั้นก็ได้แก่ หมูเส้น ลูกกะปิ หอมยัดไส้ และไชโป๊วหวาน อันเป็นของที่เก็บได้นาน ทำแล้วเก็บใส่ไหดินเผาไว้ ทำให้เก็บได้นานไม่บูดเน่าเสีย ต่อมา ชาวมอญถือเอาข้าวแช่เป็นอาหารสำคัญในประเพณีวันสงกรานต์ ทำให้ข้าวแช่เป็นอาหารที่ชาวมอญ นิยมทำสังเวยเทวดาในตรุษสงกรานต์ และค่อยๆเผยแพร่เข้ามาในไทย ซึ่งก็เข้ามานานอยู่นานพอควร จะเห็นได้จากกลอนของกวีอย่าง สุนทรภู่ที่กล่าวถึงข้าวแช่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ว่า ฤดูร้อน ก่อนเก่า ทำข้าวแช่ น่าชมแต่ เครื่องกับ สำรับฉัน ช่างทำเป็น ดอกจอก และดอกจันทร์ งามจนชั้น กระชายทำ เหมือนจำปา มะม่วงดิบ หยิบดู จึ่งรู้จัก ช่างน่ารัก ทำเป็น เช่นมัจฉา (ความจาก “รำพันพิลาป” ของสุนทรภู่ รัตนกวีสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์) ต่อมา ชาววังรับไปปรับปรุงเรียกว่า “ข้าวแช่เสวย” หรือ “ข้าวแช่ชาววัง” เมื่อสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี 2453 แล้ว ข้าวแช่ได้รับการเผยแพร่ไปนอกวังและเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง ข้าวแช่ในแต่ละที่ก็ได้ถูกปรับสูตรให้แปลก แตกต่างกันออกไปตามรสที่ถูกปาก ความสวยงาม ของที่หาได้ และในปีนี้มีที่ไหนที่ทาง Kinlakestars แนะนำกันบ้าง มาดูกันเลย 1. Ruen Noppagao ข้าวแช่แสนอร่อยสุดวิจิตรในเครื่องเบญจรงค์ ให้บริการเพียงวันละ 9 ชุด ณ ร้านอาหารเรือนนพเก้า สาทรซอย 6 ราคา: ๖๙๙++ สำหรับทานที่ร้าน และ ราคา ๑๒๙๙ บาท ข้าวแช่สำรับซื้อกลับบ้าน (2 ท่าน)ระยะเวลาขาย : วันที่ 22 มีนาคม ถึง…

Read More

Kinlakestars.com ขอเชิญคุณมาคลายร้อนด้วย “ข้าวแช่” เสน่ห์ของว่างตำรับชาววัง ที่ห้องอาหารเฟลอริช ตลอดเดือนเมษายนนี้ ณ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ลูกจันทน์ โดยเสน่ห์จันทน์ พร้อมเสิร์ฟอาหารไทยต้นตำรับด้วยสูตรอาหารที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ที่ยังคงรักษาดีเอ็นเอการปรุงอาหารไทยต้นตำรับจากร้าน เสน่ห์จันทน์ ไว้อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยวัตถุดิบคุณภาพดีจากเกษตรกรท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นการรักษาและคงไว้ซึ่งอาหารไทยต้นตำรับ ลูกจันทน์ โดยเสน่ห์จันทน์ พร้อมนำเสนอเมนูที่หารับประทานได้ยากหรือสูตรอาหารที่อาจถูกหลงลืมไปแล้วเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลัง และนำกลับไปสู่แก่นแท้ของความพิถีพิถันในการปรุงอาหารไทยแบบดั้งเดิม ทำให้มาได้ทั้งวันสบาย ๆ หรือ แม้แต่ฉลองโอกาสพิเศษ สัมผัสรสชาติอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมที่ปรุงขึ้นจากสูตรอาหารที่สืบทอดต่อกันมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สานต่อรสชาติความอร่อยจากร้านอาหารไทยแท้ๆ ที่มีชื่อเสียงอย่าง เสน่ห์จันทน์ “ข้าวแช่” เป็นอีกหนึ่งเมนูช่วยคลายร้อนของคนไทยสมัยโบราณ และขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการเตรียมตั้งแต่การหุงข้าวให้เรียงเม็ดสวยงาม การเตรียมน้ำอบสำหรับข้าวแช่ ที่ต้องอบควันเทียนลอยดอกมะลิและกลีบกุหลาบเพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น อีกทั้งเครื่องเคียงที่กรรมวิธีการปรุงนั้นประณีตและซับซ้อนหลายขั้นตอน จนได้เป็นเครื่องเคียงที่มีรสชาติที่กลมกล่อม ได้แก่ พริกหยวกยัดไส้ นำเอาพริกหยวกไปคว้านเอาไส้พริกหยวกออก แล้วยัดไส้หมูสับ สัดส่วนของเนื้อและมันกำลังดีด้วยสามเกลอ เครื่องปรุงพื้นฐานของการทำอาหารไทย อันได้แก่ใส่รากผักชี ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย แล้วนำไปนึ่งห่อประดับด้วยไข่ที่ทอดกรอบจนฟูสีเหลืองทองอร่าม หอมยัดไส้ เป็นหอมแดงยัดไส้ปลากะพง คลุกเคล้าด้วยสามเกลออย่างรากผักชี เกลือ พริกไท เป็นต้น โดยชุบไข่แล้วนำไปทอด เพื่อให้กรอบและหอมกรุ่น เวลากัดจะให้ความหวานและได้กลิ่นไก่ที่สอดไส้ข้างใน ลูกกะปี ลูกกะปิที่นี่มีขนาดที่เล็กกว่าทั่วๆไป ผสมกับกระชายสับ กินแนมคู่กับกระชายสดที่เชฟทำเป็นทรงดอกจำปี ใช้กะปิเจ้าดังจากตลาด อตก ไช้โป้วผัดหวาน ไชโป้วกรอบผัดหวาน ต้มจนกว่าไชโป้วจะนำความเค็มออกมา และนำมาผัด มีรสหวานและเด้งสู้ฟัน เป็นเครื่องเคียงที่ทานได้อย่างเพลิดเพลิน ยิ่งทานพร้อมกับข้าวแช่ จะทำให้รสสัมผัสกลายเป็นความหวานและเค็มที่ลงตัวยิ่งขึ้นและปั้นเป็นลูกกลมๆเล็กๆพอดีคำ ปลาแห้งผัดหวาน หมูฝอย หมูฉีกเป็นฝอยที่ผ่านการหมักปรุงรสและทอด แห้งกำลังดี จนได้เครื่องเคียงที่มีรสชาติหวานมันกลมกล่อมอย่างลงตัว และพลาดไม่ได้กับของหวานปิดท้ายอย่างส้มฉุน ส้มฉุนหิมะ เมนูของหวานตัดเด็ด เป็นส้มฉุนที่หากินได้ยาก ทำมาแบบกรานิตต้าโรยด้วยส้มซ่า รสหวานสดชื่น เหมาะเจาะกับช่วงนี้ที่อากาศร้อนอบอ้าว แม้จะมีฝนโปรยปราย แต่ก็ยังคงร้อนมากถ้าได้รับประทานส้มฉุนแล้ว รับรองว่าชื่นใจ เย็นทรวง คลายเครียดได้มากทีเดียว กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน (ว่าด้วยงานนักขัตฤกษ์) ในสำนักพระราชวังบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒)ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เพื่อเป็นการพรรณนาเกี่ยวกับอาหารคาวหวานในวังรำพึงรำพันถึงถึงฝีมือในการทำอาหารของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี โดยการนำชื่ออาหาร ลักษณะ หรือความสัมพันธ์มาเชื่อมโยงเข้ากับการรำพึงรำพันนั้น ๆ เป็นวรรณคดีที่มุ่งเน้นความงดงามไพเราะของวรรณคดีเหนือสิ่งอื่นใด มีการใช้โวหารและภาษาที่สละสลวย ตลอดจนการอุปมาเพื่อสื่อถึงรสชาติและฝีมือในการปรุงอาหารของนางอันเป็นที่รัก บอกชื่ออาหารที่หารับประทานได้ยาก เนื่องจากมีวิธีการปรุงที่ยาก และต้องประณีตในการทำเป็นอย่างมาก…

Read More

ข้าวแช่โรงแรมสุโกศล สดชื่น คลายร้อน กับ “ข้าวแช่ต้นตำรับชาววัง” สูตรลับเฉพาะที่ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ ตลอดเดือนเมษายนนี้ เชิญชวนทุกท่านมาคลายร้อนด้วยของว่างสไตล์ไทยๆ กับ “ข้าวแช่ต้นตำรับชาววัง” เสิร์ฟข้าวหอมมะลิออร์แกนิก อบด้วยควันเทียนจนหอม พร้อมความเย็นสดชื่นจากน้ำลอยดอกมะลิและดอกชมนาด ทานคู่กับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด อาทิ ลูกกะปิทอด หอมแดงยัดไส้ชุบไข่ทอด พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอยหรือเนื้อฝอยผัดหวาน ปลายี่สนหรือปลาช่อนทอดผัดหวาน และไชโป๊ผัดหวาน • สั่งทานที่ร้าน ชุดละ 520 บาทสุทธิ• เซตตะกร้าหวายพรีเมี่ยม ชุดละ 750 บาทสุทธิ สามารถสั่งซื้อหรือทานได้ที่ ซัฟไฟร์ บาร์ ตั้งแต่เวลา 11.30 – 16.00 น.📞02 247 0123 ต่อ 1811 เป็นตำรับอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ โดยชาวมอญ นิยมทำขึ้นเพื่อถวายทวยเทพในเทศกาลตรุษสงกรานต์ โดยทำถวายแด่พระสงฆ์ และนำไปให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ข้าวแช่ได้แพร่มาสู่สำรับไทย และเริ่มเข้าสู่สำรับชาววัง เมื่อสตรีชาวมอญได้เข้ารับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน จึงได้ปรุงข้าวแช่เพื่อถวาย ต่อมา ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ผู้ที่เคยทำงานห้องเครื่องต้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้นำข้าวแช่ออกสู่ตลาด จึงทำให้ได้รับความนิยมโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน ข้าวแช่ของรรสุโกศลเป็น ข้าวแช่ชาววัง สูตรต้นตำรับ หม่อมหลวงเติบ ชุมสาย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารไทย และเป็นผู้นำการเผยแพร่อาหารไทย น้ำข้าวแช่ สมัยก่อนใช้น้ำฝนใส่ในโถดินเผา เก็บไว้ในที่ร่มและเย็นชื้น ใช้ดอกชมนาดทำน้ำดอกไม้สดจะถือว่าเป็นที่สุด เพราะมีกลิ่นหอมเหมือนใบเตยผสมข้าวใหม่ หรือใช้กุหลาบมอญหรือดอกมะลิ..จากนั้นอบด้วยเทียนหอม ตัวข้าวแช่ ของเราใช้ข้าวออแกนิค ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ต้มน้ำให้เดือด ใส่มะนาวแทนน้ำส้ม แล้วนำข้าวใส่ลงไปตอนน้ำเดือดแล้ว น้ำมะนาวทำให้เม็ดข้าวขาวใส และสิ่งสกปรกตกตะกอน ต้มจนได้ที่แล้วเอาข้าวมาขัดเบาๆให้เหมือกออกในน้ำเย็น จากนั้นนำมาผึ่งให้แห้งแล้วอบด้วยควันเทียน พริกหยวกสอดไส้ ห่มสไบกรองทอง ใช้หมูติดมัน รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกรวมกับเกลือจนเนียน ใส่ไข่ไก่ นำไปยัดในพริกหยวกที่คว้านเม็ดออกแล้ว นำไปนึ่ง แล้วห่อด้วยไข่ฝอย หอมแดง ก็ยัดไส้ด้วยลูกกะปิ แต่เพิ่มไข่เค็มกับหมูหยอง นำไปชุปแป้งทอด…

Read More

พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษต้อนรับสายลมฤดูร้อนด้วย “ข้าวแช่โบราณ” ณ ห้องอาหาร สยาม ที รูม โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ข้าวแช่เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ ก่อนจะถูกปรับปรุงพัฒนาโดยห้องเครื่องสยามในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ.2411-2453) และด้วยความหอมละมุนที่คืนความสดชื่นให้แก่ผู้ทาน ข้าวแช่จึงกลายมาเป็นสุดยอดอาหารประจำฤดูร้อนที่ชาวไทยนิยมทานกันในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ห้องอาหารสยาม ที รูม ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเพลิดเพลินไปกับเมนูข้าวแช่ไทยตำรับโบราณนี้ด้วยกระท้อนเสวย(สำหรับนั่งทานที่ร้านเท่านั้น) ตามมาด้วย “ข้าวแช่” ที่ใช้ข้าวหอมมะลิหุงสุกหอมกรุ่นลอยในน้ำอบควันเทียนลอยดอกมะลิอันงดงามเสิร์ฟพร้อม “ลูกกะปิทอด” ที่โคลกกะปิแท้ผสมเนื้อปลาย่างและสมุนไพรที่คัดสรรมาปั้นพอดีคำทอดจนเหลืองกรอบชวนรับประทาน “พริกหยวกสอดไส้” นำพริกหยวกมาคว้านเมล็ดยัดไส้หมูสับปรุงรสแล้วนำไปนึ่ง ก่อนห่อด้วยไข่ตาข่ายสุดปราณีต “หอมแดงยัดไส้ปลา” เป็นหอมแดงที่สอดไส้ไก่ผัดกับเครื่องหอม ก่อนนำมาชุบไข่และแป้งลงทอด “หมูฝอย” เนื้อหมูต้มสุกฉีกเป็นเส้นผัดให้กรอบคลุกเคล้าน้ำตาลมะพร้าว รวมไปถึง ปลายี่สนผัดหวาน ไชโป๊ผัด อัญชัญยัดไส้กุ้ง ไข่เค็ม ผักสดแนม และปิดท้ายด้วยน้ำแตงโมปั่นเพิ่มความสดชื่นคลายร้อนดับกระหายได้เป็นอย่างดี ร่วมสัมผัสความสดชื่นและความหอมละมุนกลิ่นดอกมะลิ “ข้าวแช่โบราณ” ได้ที่ห้องอาหาร สยาม ที รูม ทุกวันเวลา 11.00 – 17.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ในราคาเพียง 590++ บาทต่อเซ็ท(สำหรับนั่งทานที่ร้าน) หรือ 490++ บาท(สำหรับสั่งกลับบ้าน) สำหรับสมาชิกคลับแมริออทเมื่อมานั่งทานที่ร้านรับส่วนลด 15% สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร 02 059 5999 อีเมล [email protected] หรือติดต่อเราผ่านช่องทางเหล่านี้ เว็บไซต์: www.bangkokmarriottmarquisqueenspark.com เฟสบุ๊ก: https://www.facebook.com/bangkokmarriottmarquis   หรือเพิ่มเราเป็นเพื่อนในไลน์ @siamtearoom เกี่ยวกับโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โรงแรมขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นโรงแรม แมริออท มาร์คีส์ แห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park) จึงกลายเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ ณ…

Read More

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ โรงแรมในเครือโอกุระ โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ (Okura Hotels & Resorts) บริษัทบริหารโรงแรมชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น และได้เปิดดำเนินการในประเทศไทยมานานกว่า 8 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม ปี 2555 เป็นต้นมา ได้ประกาศการจัดงาน The Okura Prestige Bangkok Japanese Fair Series 2021 : “The Passionate Curators” เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 10 – 14 เมษายน 2564 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเสนอวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านกิจกรรมอันหลากหลายทั้งการแสดงดนตรี รวมไปถึงการบริการอาหารและเครื่องดื่มจากห้องอาหารและกิจกรรมมากมายที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นติดต่อกัน 5 วัน ช่วงวันหยุดยาวในวันสงกรานต์ประจำปี 2564 บริเวณส่วนต้อนรับชั้น 24 จะถูกประดับด้วยต้นซากุระสีชมพูสร้างบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระจะบานสะพรั่งในช่วงเวลานี้ พบกับวงดุริยางค์เยาวชนไทย (Thai Youth Orchestra) นำโดย ดร. เป้ อัครวัฒน์ ศรีณรงค์ ที่จะแสดงดนตรีบริเวณส่วนต้อนรับชั้น 24 ตั้งแต่เวลา 17:00 – 18:00 เพื่อเป็นการเปิดงาน ในวันที่ 10 เมษายน 2564 มื้อค่ำวันเดียวกัน ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ จะเปิดให้บริการ “ยะไต และ อิซากายะ” บุฟเฟต์มื้อค่ำวันเสาร์ในบรรยากาศแบบประเทศญี่ปุ่น เชฟ เซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef) ได้เตรียมรายการอาหารญี่ปุ่นเพิ่มเติมเป็นพิเศษเพื่อให้ “ยะไต และ อิซากายะ” ในวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2564 เป็นค่ำคืนพิเศษที่น่าจดจำ อาหารน่ารับประทาน…

Read More