” เมนูใหม่ ! – VIVIN Rossini Style ” VIVIN จับมือกับ YOU HUNT WE COOK สถานีที่คุณสามารถเลือกวัตถุดิบในซุปเปอร์มาเก็ตมาให้เชฟปรุง ณ Gourmet Market Siam Paragon แล้วเราจะสั่ง VIVIN ROSSINI STYLE อย่างไร ? เลือกเนื้อ ทั้งชนิด และส่วนของเนื้อจาก Gourmet Market Butchery counter (เนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อไก่ หรือ เนื้อแกะ) โดยหลังจากเลือกแล้ว จ่ายเงินตรงกับที่เคาเตอร์คิดเงิน เลือกเนื้อที่เราจะมาทำสเต๊กให้ Chef ที่ YOU HUNT WE COOK counter และสั่ง หรือ บอกเชฟ ว่าจะให้เชฟปรุงแบบไหน ความสุกระดับอะไร เลือก VIVIN Foie gras ในแบบต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์ Rossini style (250THB) นั่งลง และเริ่มกิน VIVIN Rossini และความแตกต่างของ VIVIN Rossini Foie Gras กับ Rossini Foie Gras ปกติ ต่างกันอย่างไร ? เป็นที่รู้กันดีว่าโดยปกติทั่วไป Rossini Foie Gras จะใช้ Foie Gras ทั้งก้อนมา pan seared ให้ได้ความสุกในระดับพอดี ให้กลิ่นที่หอม ไม่แห้งไม่แฉะจนเกินไป และนำมาวางบนชิ้นเนื้อ ซึ่งเมนูนี้มีชื่อเต็มๆว่า “Tournedos Rossini” เป็นสเต๊กสไตล์ฝรั่งเศส ที่สร้างสรรค์มาเพื่อ Gioachino Rossini นักประพันธ์ชื่อดัง แต่สำหรับ VIVIN Rossini Foie Gras เป็นการปรับเปลี่ยนจากการใช้ Foie Gras ทั้งก้อนมา pan seared เป็น Foie Gras Terrine ของ Vivin แทน…
Author: Kittin Assavavichai
กลิ่นอายความเป็นอาหารไทย กับการนำเสนอแนวใหม่ ผ่านประสบการณ์ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ และ เทคนิคขั้นเทพ กลับมาอีกครั้งกับ เชฟมิชลินสตาร์ เชฟเฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน ได้บินตรงจากเดนมาร์ก เพื่อมาแนะนำอาหารจานใหม่ในเซต “The Journey” สัมผัสกับเสน่ห์ของเมนูใหม่ที่รังสรรค์ออกมาได้อย่างโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ณ ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ต้อนรับการกลับมาของมิชลินสตาร์เชฟชื่อดัง เฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน เพื่อแนะนำเมนูอาหารจานใหม่ที่จะพาท่านไปพบกับประสบการณ์อันเหนือความคาดหมาย ที่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ และรสชาติที่ดีเยี่ยม พร้อมเสิร์ฟใน The Journey เซตเมนูจานวนรวม 10 คอร์ส สำหรับมื้อเย็น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเมนูอาหารจานใหม่ที่เชฟเฮนริค ได้บินตรงจากกรุงโคเปนเฮเกนเพื่อมาแนะนำพร้อมใช้เวลาในการสอนเทคนิค และขั้นตอนการทำอาหารแต่ละจานให้กับทีมเชฟประจำห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ก่อนจะเข้าสู่มื้ออาหาร เชฟได้คิด เมนูของกินรองท้องเล็กๆน้อยๆ ให้ชิมๆไป คุยๆไปกันที่มุมนั่งเล่นก่อนเดินไปที่โต๊ะ โดยที่อาหารกินเล่น เหล่านี้ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Street food หรืออาหารตามข้างทางในไทยนี้ล่ะครับ หลังจากที่เรามานั่งโต๊ะ ก็จะเริ่มเข้าสู่มื้ออาหารกันอย่างเต็มตัว โดยเริ่มจาก 1. ซุปลักซาซีฟู้ด (Laksa Based Crab on Crab Cornetto, Grilled Squid, Oyster Tempura with Misomayo-Coco) สำหรับอาหารเมนูนี้จะเริ่มต้นด้วยซุปลักซา ซึ่งเป็นซุปของสิงคโปร์ เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวเปอรานากัน กลุ่มลูกครึ่งมลายู-จีนที่สร้างวัฒนธรรมผสมผสานแบบใหม่ขึ้นมาโดยเอาส่วนดีระหว่างจีนและมลายูมารวมกัน โดยคำว่าเปอรานากันเป็นภาษามลายูแปลว่า “เกิดที่นี่” ปกติจะเสิร์ฟในน้ำต้มยำกะทิและมักจะเสิร์ฟคู่กับน้ำพริก พร้อมตกแต่งด้วยใบลักซา สำหรับจานนี้จะเสิร์ฟในถ้วยกะลา ตัวซุปจะถูกบรรจุในถุงและทับหน้าด้วยทรายและเปลือกหอย สวยงาม และมีหลอดโผล่มาให้ดู อีกเมนูที่กินคู่ประกอบกันคือหอยนางรมที่นำไปทอดกับแป้งแบบเทมปุระ และกินคู่กับดิ๊ปปิ้งมิโซะ รสมันเค็ม ออกสไตล์ญี่ปุ่น และสำหรับจานสุดท้ายในเมนูนี้คือปลาหมึกย่างที่พนักงานจะสร้างความประทับใจโดยเสิร์ฟออกมาพร้อมเตาย่าง คือพนักงานจะยกมาทั้งเตา เอาปลาหมึกย่างมาวางให้ที่จาน และให้เราดิ๊ปปิ้งกับไข่แดง รสชาติลงตัวดีทีเดียว 2. สลัดแอปเปิ้ลและเซเลอรี่ (Salad with Apple and…
From Now – 31st October, 2016 Chef Nicolino Lalla at Medici Kitchen & Bar, Hotel Muse Bangkok, embraces seasonality and creates a special menu highlighting prized wild porcini mushrooms. A gourmet ingredient in Italian cuisine, wild porcini mushrooms are used to impart a deliciously rich and sweet nutty flavour in wide variety of dishes. At Medici Kitchen & Bar, lovers of foraged and seasonal cuisine can savour a light porcini salad with rocket, crispy speck ham and Parmesan cheese, and twist of cream yellow and purple potato, caciocavallo cheese fondue, porcini mushroom and crispy bacon. Other notable dishes…
ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 นี้ เชฟนิโคลิโน่ ลัลลา แห่ง เมดิซี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์ โฮเทล มิวส์ แบงค็อก ร่วมต้อนรับฤดูกาลแห่งเห็ดพอร์ชินี ราชาแห่งเห็ด พร้อมรังสรรค์หลากหลายเมนูพิเศษหอมกรุ่นเลิศรสที่ปรุงจากเห็ดพอร์ชินี ในครัวอาหารอิตาเลียน เห็ดพอร์ชินีนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในการนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารเมนูต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติหวานกรุบและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ เมดิซี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์ คนรักเห็ดพอร์ชินีจะได้อิ่มอร่อยไปกับเมนูสลัดเห็ดพอร์ชินีและผักร็อกเก็ต ผสมด้วยแฮมกรอบและชีสพาเมซาน (Porcini salad with rocket, crispy speck ham and Parmesan cheese) และเมนูครีมมันฝรั่งแลครีมมันหวาน ผสมด้วยฟองดูชีสคาชิโอคาวัลโล เห็ดพอร์ชินี และเบคอนกรุบกรอบ (twist of cream yellow and purple potato, caciocavallo cheese fondue, porcini mushroom and crispy bacon) นอกจากนี้ยังมี อีกหลายหลายเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการนำเห็ดพอร์ชินีมาเป็นส่วนผสมสำคัญในการปรุง อาทิ เมนูหอยเชลล์ย่าง เสิร์ฟพร้อมเห็ดพอร์ชินีผัดน้ำมัน เห็ดทรัฟเฟิล และซอสมันฝรั่งชุ่มครีม (Grilled Japanese scallop, sautéed porcini mushroom, white truffle and creamy potato sauce) เมนูปลาหิมะทอดกับเห็ดพอร์ชินีเสริ์ฟพร้อมซอสไวน์ (Snow fish pan fried with porcini mushroom and wine sauce) เมนูราวิโอลีโฮมเมดสอดไส้เห็ดพอร์ชินีและชีสริคอตต้า เสิร์ฟพร้อมชีสทาเรจจิโอ เห็ดทรัฟเฟิลดำ และซอสไส้กรอก (Homemade ravioli filled with porcini mushroom…
แม้กาลเวลาจะผ่านไปเกือบ 130 ปี อาคารหลังนี้ยังคง ตั้งตระหง่าน สง่างาม ชวนให้แขกเข้ามาสัมผัส บรรยากาศอันน่าจดจำและแสนพิเศษ ทั้งการตกแต่งใหม่ และแนวอาหารแบบใหม่ที่เชฟให้นิยามว่า ” Comfort Food ” ทางเข้าที่ผสมผสานเอากลิ่นอายของความรุ่งเรื่องในอดีต กับ การตกแต่งที่ทันสมัย ผสานเข้ากันเป็นหนึ่ง สู่สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ภายในยังคงกลิ่นอายในแบบฉบับเดิม ด้วยความที่อาคารเดิมเป็นบ้านอยู่อาศัย แต่ต่อมาก็ถูกดัดแปลงมาเป็นบูทีคโฮเทล สถานฑูตรัสเซีย และสู่การเป็นร้านอาหาร การจัดที่นั่งและโต๊ะจึงมีความเป็นส่วนตัวและมีสไตล์ การให้แสงจะไม่สว่างมาก เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีความเป็นส่วนตัว และในวันนี้ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปพบกับอาหารสไตล์ “Comfort Food” ซึ่งเป็นอาหารกินง่าย สบายๆ รสชาติที่คุ้นปากคนส่วนใหญ่ ผ่านการคิดและสร้างสรรค์จากอาหารสูตรเดิมที่มีอยู่ให้แปลกใหม่ขึ้น เหมือนดั่งอาคารที่มีการรีโนเวทให้คงความงามเดิมแต่ผสานเอาความทันสมัยได้อย่างลงตัว จะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยครับ เรามาเริ่มต้นมื้อกันด้วยเมนูเครื่องดื่มที่ผมอยากจะขอแนะนำ Cocktail: Sour for fresh apple juice + passion juice + gin + lemon grass syrup นับเป็นเครื่องดื่มเริ่มต้นที่ดี ให้ทั้งความเปรี้ยว หวานนิดๆ สดชื่น และแอลกอฮอล์เบาๆอย่างจิน กับความสดชื่นแบบไทยๆจากน้ำเชื่อมตะไคร้ ในแก้วค๊อกเทลทรงปากปาน กับหัวใจน้อยๆ 4 ดวงแสนสดใสน่ารัก Cocktails: Freshy Mangosan mango juice + yuzu juice + sticky rice syrup + mango foam ส่วนหนุ่มๆสาวๆคนไหนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เราขอแนะนำตัวนี้เลย แก้วนี้ก็เป็นอีกแก้วที่ดีสำหรับการเริ่มต้น ให้ความสดใส และดูสนุกสนานรื่นเริงจากแก้วและหลอด อีกทั้งองค์ประกอบต่างๆ หลอดสีขาวสลับแดงดั่งแท่งลูกกวาด ความหอมหวานจากมะม่วงสุกมาเจอกับความเปรี้ยวอมหวานแสนสดชื่นและมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์จากส้มยูสุ ความหอมหวานจากน้ำเชื่อมข้าวเหนียว รสจึงเหมือนข้าวเหนียวมะม่วงปั่นแต่ก็มีความเปรี้ยวและหอมส้มยูสุ ได้กลิ่นอายญี่ปุ่นนิดๆ SMALLER PLATES / จานเรียกน้ำย่อย -…
ตลอดเดือนกันยายนนี้ ห้องอาหารมิสทราลชวนคุณมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับโปรโมชั่นอาหารแดนจิงโจ้ หรือออสเตรเลีย หากคุณยังไม่เคยได้ลิ้มลองที่ไหนทางเราขอยืนยันว่าห้ามพลาดพร้อมการันตีความอร่อยสูตรต้นตำรับสไตล์ดาวน์อันเดอร์แท้ๆ อีกด้วย! ระหว่างวันที่ 13 – 16 กันยายน ห้องอาหารมิสทราลยินดีต้อนรับเชฟแองเจล่า เกรซ บราวน์ (Angela Grace Brown) เชฟชาวออสเตรเลีย จากโซ โซฟิเทล หัวหิน ที่จะมาร่วมเนรมิตอาหารออสเตรเลียสุดแสนอร่อย เชฟแองเจล่าได้สั่งสมประสบการณ์มาเนิ่นนาน ก่อนที่เธอจะมาเป็นเชฟที่โซ โซฟิเทล หัวหิน เธอได้ร่วมงานกับสุดยอดเชฟอย่าง Raymond Blanc ในร้านอาหารมิชลินสตาร์ 2 ดาว Le Manoir aux Quat’Saisons ที่เมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นเชฟใหญ่ประจำห้องอาหาร Room 81 ที่โรงแรมโซฟิเทล โกลด์โคส บรอดบีช ประเทศออสเตรเลีย เริ่มต้นความอร่อยกับเมนูสุดพิเศษรังสรรค์โดยเชฟแองเจล่า อาทิ ปลาคอดรมควันเสิร์ฟพร้อมสลัดผักกาดคอส อะโวคาโด มันฝรั่ง และน้ำสลัดเลมอนเมอร์เทิล หรือเอาใจคนชอบบีทรูท ก็ต้องสลัดบีทรูทเข้ากันได้ดีกับชีสแพะ ถั่ววอลนัท ราดด้วยน้ำสลัดเห็ดทรัฟเฟิลผสมน้ำผึ้ง ทานแล้วรับรองว่าสดชื่นตลอดทั้งวัน ต่อด้วยขาแกะส่งตรงจากประเทศออสเตรเลียเสิร์ฟคู่มะเขือเทศอบ ไฮไลท์อีกจานคือปลากระพงขาวอบทานคู่มันฝรั่งอบกรอบ เฟนเนลสุดนุ่มรสชาติกลมกล่อม และสลัดผักรวมต่างๆ และที่พลาดไม่ได้คงหนีไม่พ้น เนื้อจิงโจ้แสนนุ่มฉ่ำลิ้นเพิ่มรสชาติความอร่อยด้วยบุชสไปซ์ ถั่วแมคคาเดเมียกรุบกรอบ กะหล่ำดอกพูเร และซอสเปปเปอร์เบอร์รี่ ปิดท้ายด้วยขนมหวานแบบดาวน์อันเดอร์สุดๆ อย่าง พาฟโลวาตัดความหวานด้วยซอสเสาวรส และเค้กทิมแทม นอกจากนี้ตลอดทั้งเดือนคุณยังสามารถเติมเต็มความแปลกใหม่กับอาหารดาวน์อันเดอร์หลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็น พายเนื้อออสเตรเลีย ขาแกะออสเตรเลียย่าง เบอร์เกอร์เนื้อสูตรเด็ดผสมบีทรูท ฟิชแอนด์ชิพ และอื่นๆ อีกมากมาย บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 – 14:30 น. ในราคาเพียง 599 บาทเน็ทต่อท่านสำหรับผู้ใหญ่รวมชาหรือกาแฟ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลด 50% และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบทานฟรี กรุณาสำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2238 1991 หรืออีเมล [email protected] Kin…
วันนี้ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปลิ้มลอง ห้องอาหาร Steak House ที่ตกแต่งได้ เข้ม ขรึม สงบ แฝงไปด้วยกลิ่นอายและความน่าค้นหา กับ Jazz Live band ที่ร้องได้อย่างดีทีเดียว ทัศนียภาพเมืองที่งดงาม กับอาหารตัวใหม่ โปรโมชั่น SeaFood ตามแต่จะเลือกสั่ง และ ทำ เชฟโทเบียส ชวาเซนดอร์เฟอร์พร้อมทีมเชฟมากประสบการณ์ แห่งห้องอาหารชื่อดังแห่งนี้ ภูมิใจนำเสนอเมนู แสนพิเศษของสุดยอดอาหารทะเลคุณภาพระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น กุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาดา (Canadian lobster) หอยเชลล์จากฮอกไกโด (Hokkaido scallops) กุ้งลายเสือ (tiger prawns) และอีกมากมาย คุณสามารถเลือกสั่งหลากหลายเมนูอาหารทะเลเลิศรสได้ทั้งในแบบเมนูอาลาคาร์ต (A la carte) หรือเลือกอาหารทะเลสดๆ นานาชนิดได้จาก บาร์เบ็ต ซีฟู้ด มาร์เก็ต พร้อมส่งตรงให้ทีมเชฟมืออาชีพของเราได้ปรุงเมนูอาหารทะเลเลิศรสพร้อมเสิร์ฟความอร่อยในแบบที่คุณต้องการ เรามาเริ่มต้นกันด้วย Mocktail – Shirley Temple แก้วนี้เกิดจากการผสมผสานของ Maraschino cherry syrup and Sprite ให้รสที่หวานเข้มและซ่านิดๆ สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแม่นางบาร์เบตที่เป็นสาวหวานแต่ก็ซ่า A la carte menu เมนูอาลาคาร์ตอาหารทะเลเลิศรส ที่เราจะมารีวิวและแนะนำกันในวันนี้ ประกอบไปด้วย – Honey glazed Hokkaido scallops จานเด่นที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ฮอกไกโดราดซอสน้ำผึ้ง เสิร์ฟพร้อมผักแซมไฟร์อ่อน แครอท และโฟมมะพร้าว จานนี้หอยตัวโต เนื้อแน่น หวาน หอมกลิ่นมะพร้าว หวานจากน้ำผึ้งอันมีเอกลักษณ์ และ หน่อไม้ทะเลที่มีความกรึบ และ กรุบ กรอบ เค็มอยู่ในตัว ผสมผสานกันได้ลงตัวดี (Plump honey glazed Hokkaido scallops with young samphire, carrots…
ในวันนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับร้านอาหารที่อยู่ซ่อนเร้น อยู่ในซอยเอกมัย กับรสชาติ หน้าตา สไตล์ อาหารที่แปลกตา น่าลิ้มลอง หาที่ไหนไม่ได้ ด้วยสไตล์การปรุงแบบ American Progressive กับการใส่ใจในทุกขั้นตอน และะความสด ไหม่ พรีเมียม ของวัตถุดิบที่นำมาเลือกใช้ สำหรับร้าน ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าสองชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นอาหารกินง่าย เช่นเบอร์เกอร์ สปาเก็ตตี้ เฟรนฟราย และ เบียร์ชั้นนำ ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว รวมทั้งยังมี Sunday Brunch ด้วย ภายใต้ชื่อร้าน Mikkeller Bangkok ซึ่งเราจะแนะนำในรีวิวต่อไป ในส่วนที่เราจะรีวิวในวันนี้ จะเป็น ส่วนของ Chef Table ใช้ชื่อแยกออกมาว่า UpStairs ปรุงและรังสรรค์อาหารโดยเชฟ Dan ผู้สร้างสรรค์ และใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารแบบ American Progressive การบริการและความใส่ใจในรายละเอียด เป็นสิ่งที่เราจะสามารถ สัมผัสได้ เราจะสามารถเห็นการปรุงในทุกขั้นตอน จากเชฟ และ ครัวแบบเปิด ซึ่งมีแม้แต่ที่รองโทรศัพท์บนโต๊ะอาหาร เรามาเริ่มกันด้วย Smile Smile เป็นของเริ่มต้นมื้อเรียกน้ำย่อย ซึ่งเป็นส้มสไลด์ผ่าครึ่ง ทรงครึ่งวงกลม ท๊อปด้วยสาคู และดอกไม้น้อยๆ เชฟมีแนวคิดว่า ให้ผู้กิน ใส่เข้าปาก กัด ซึ่งจะทำให้ผู้กินทำปากเป็นรูปยิ้ม พร้อมกับได้รสชาติ หวาน เปรี้ยว และความรู้สึกสดชื่น เป็นการเริ่มต้นมื้ออาหารที่ มาพร้อมรอยยิ้ม และ ความสดชื่น ตามมาด้วอมูชบุชอีกชิ้น นั้นคือ ธัญพืชนำมาทำเป็นแผ่น กับหอมแครอท น้ำมันมะกอก ให้ความรู้สึกสนุก สัมผัสที่กรุบกรอบ และ ความมัน กลิ่นและรสเฉพาะของน้ำมันมะกอกชั้นเลิศให้กลิ่นอายเหมือนได้รับอากาศอบอุ่นแถวอิตาลีตอนใต้ รสหวานจากแครอท เค็มอร่อย เป็นการเริ่มเข้าสู่มื้ออาหารที่ดี และเราก็เข้าสู่จานแรกของมื้ออย่างจริงจัง Ikura ราก celery root ที่นำมาทำเป็น พุดดิ้ง ที่ให้ความรู้สึกนุ่มละมุน และสดชื่น ท๊อปหน้าด้วย ไข่ปลา แซลมอน…
ชิคสุดๆ กับรสชาติที่ลงตัวไม่ซ้ำใคร ทั้ง เหล้าส้มหวาน น้ำผึ้งและมะลิ คาราเมลเค็ม ฯลฯ ที่นอกจากจะแปลกแล้ว ยัง อร่อย ลงตัว ทั้งรสชาติและตัวแป้ง อีกทั้งกล่องที่เล่าเรื่องราวผ่านสีและลายเส้นที่แปลกใหม่แหวกแนว หากมองหาความแปลกใหม่ นี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก เป็นครั้งแรกที่โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ นำเสนอขนมไหว้พระจันทร์ซึ่งรับรองว่าจะไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอนกับแป้ง 2 แบบ นั่นคือแป้งเปลือกอบ และ แป้งเปลือกหิมะ กับ 5 รสชาติ ด้วยการดีไซน์กล่องแพ็กเกจขนมไหว้พระจันทร์ในรูปแบบที่สนุกสนานเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สามารถนำไปเป็นของขวัญให้คนพิเศษของคุณ ลายกราฟิตี้มีความผสมผสานกันระหว่าง กราฟิกแนวๆแบบใหม่ ลายไทย และจีน กับสีที่จี๊ดจ๊าดแต่ไม่เลอะเทอะ หนึ่งในความพิเศษคือ! ขนมไหว้พระจันทร์ทุกชิ้นถูกทำขึ้นที่โรงแรมฯ โดยเชฟสตีเว่นและทีมของเขา จึงมั่นใจได้ว่าสดใหม่ทุกวันอย่างแน่นอน โดยขนมไหว้พระจันทร์สไตล์ดับเบิ้ลยู ที่เราจะนำมารีวิวในครั้งนี้มี 4 รสชาติด้วยกัน และเป็นเปลือกแป้งแบบแป้งอบ ได้แก่ ฟิซซี่ ราสพ์เบอร์รี่ แอนด์ แกรนด์ มาร์เนียร์ (Fizzy Raspberry and Grand Marnier) ขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษมาพร้อมคอนเซ็ปต์ ดับเบิ้ลยู ค็อกเทล คัลเจอร์ (W Cocktail Culture) ที่นำส่วนผสมของเหล้าหวานรสส้มแกรนด์ มาร์เนียร์ (Grand Marnier) ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้ว สัมผัสได้ถึงรสของเหล้าและกลิ่นอายแอลกอฮอล์เบาๆ ตัดด้วยรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆของราสพ์เบอร์รี่ ถ้ามีรสเปรี้ยวชัดกว่านี้อีกนิดอาจทำให้ชิ้นนี้ลงตัวและสดชื่นกว่านี้ และเพิ่มลูกเล่นด้วยป๊อบปิ้ง แคนดี้แต่ยังไม่ชัดเท่าไหร่ โดยรวมจัดว่าดี ในส่วนของตัวแป้งอบนั้น ต่างไปจากแป้งอบขนมไหว้พระจันทร์ทั่วๆไป เหมือนแป้งขนมปังเสียมากกว่า แต่ก็แปลกและเข้ากับไส้ในเป็นอย่างดี ฮันนี่ แอนด์ จัสมิน (Honey & Jasmine) ขนมไหว้พระจันทร์ที่มีไส้รสชาติ แปลก และหอมหวาน ลงตัว เพิ่มความอร่อยด้วยน้ำผึ้งที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี สีไส้ขาวอมครีมนิดๆ รสรวมๆหวาน หอมลง ตัว กำลังดี ในส่วนของตัวแป้งอบนั้น ต่างไปจากแป้งอบขนมไหว้พระจันทร์ทั่วๆไป เหมือนแป้งขนมปังเสียมากกว่า แต่ก็แปลกและเข้ากับไส้ในเป็นอย่างดี ซอลท์ คาราเมล (Salted Caramel)…
เฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ไปกับขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยที่ เลอ มากาครง คาเฟ่สไตล์ปารีเซียง ณ โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท “เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง” หรือเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อของ “เทศกาลไหว้พระจันทร์” เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมจีนที่จัดขึ้นในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงเพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวในค่ำคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติที่พระจันทร์ปรากฏให้เห็นเต็มดวงบนท้องฟ้า ในประเทศไทย ชาวไทยเชื้อสายจีนจะเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์กันที่บ้าน ด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ของที่เตรียมไว้สำหรับไหว้พระจันทร์ประกอบไปด้วย ธูป เทียนแดงคู่ ผลไม้ชนิดต่างๆ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขนมไหว้พระจันทร์ อีกทั้ง ขนมไหว้พระจันทร์ยังนิยมนำมาเป็นของขวัญของฝากอีกด้วย ตั้งแต่วันนี้ – 16 กันยายน พ.ศ. 2559 นี้ เลอ มากาครง ร้านคาเฟ่สไตล์ปารีเซียงของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท พร้อมร่วมเฉลิมฉลอง“เทศกาลไหว้พระจันทร์” ด้วยการนำเสนอขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายไส้เลิศรส ให้ทุกท่านเลือกอร่อยกัน ได้ทั้งแบบนั่งรับประทานในร้านหรือเลือกซื้อเป็นของขวัญของฝากสำหรับเทศกาลพิเศษนี้ อาทิ ไส้ถั่วและผลไม้รวมกับไข่แดงเดี่ยว แป้งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ความมันหวานลงตัวกำลังดี ตัดกับความมันเค็มจากไข่แดงกำลังดี ไส้ทุเรียนกับไข่แดงเดี่ยว กลิ่นทุเรียนหอมหวลชวนชิม สำหรับคนชอบทุเรียน แป้งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ความมัน หวาน กำลังดี ตัดกันได้ดีกับไข่เค็ม รส มัน เค็ม ไส้ลูกบัวกับไข่แดงเดี่ยว ลูกบัว มันกำลังดี อาจจะหวานไปนิด แต่ถ้ากินคู่กับน้ำชาจะลงตัวกำลังดี มีไข่เค็มรสมันเค็ม ช่วยตัดหวานได้ดี แป้งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานดี ไส้คัสตาร์ด สำหรับไส้คัสตาร์ดของที่นี้น่าจะเป็นตัวน่าแนะนำสุด ด้วยแป้งสีเหลืองทอง สีสันชวนชิม นุ่ม นิ่ม กำลังดี มีความมันหวานที่ลงตัว ไม่มันเลี่ยนจนเกินไป และไม่หวานจนเกินไป ข้อมูลการสั่งซื้อ สามารถเลือกอร่อยได้ในราคาสุทธิเพียง 150 บาทถ้วนต่อชิ้น หรือในราคาสุทธิ 588 บาทถ้วนสำหรับขนมไหว้พระจันทร์จำนวน 4 ชิ้นบรรจุในกล่องหรู พิเศษ รับส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ผู้ถือบัตรเครดิต SCB Private Banking และ SCB First: รับส่วนลด 15% สำหรับขนมไหว้พระจันทร์…