กรุงเทพฯ 26 กันยายน 2567: โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยกับ New Chef’s Table โดยเชฟชัชษร ประทุมมา ที่ห้องอาหารเฟลอริช ห้องอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (MICHELIN Bib Gourmand) เชฟชัชษร ประทุมมา มีประสบการณ์ด้านการปรุงอาหารมากมายทั้งในเอเชียและยุโรป อีกทั้งยังนำเสนอรสชาติไทยแสนอร่อยให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง และได้ร่วมงานกับโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในตำแหน่ง Executive Sous Chef เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีสไตล์เฉพาะไม่เหมือนใคร เชฟชัชษรได้คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่และดีที่สุด นำมารังสรรค์อย่างพิถีพิถัน นำเสนอเป็น New Chef’s Table ในรูปแบบที่หรูหราน่าลิ้มลองลิ้มลองอรรถรสความอร่อยของเมนูอาหารไทย 6 คอร์ส โดยเริ่มจากข้าวเกรียบปลากระพงเสิร์ฟพร้อมน้ำพริกเผาโฮมเมด ต่อด้วย 2 เมนูเรียกน้ำย่อยที่เสิร์ฟมาคู่กันอย่าง ต้มข่าพานาค็อตต้าหอยเชลล์ โดยเชฟชัชษรได้คัดสรรหอยเชลล์ฮ๊อกไกโดเนื้อแน่น วางน้ำต้มข่ารสชาติจัดจ้านที่มาในรูปแบบชองพานาค็อตต้าไว้ด้านบนของตัวหอยเชลล์ ท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์ เสิร์ฟมาคู่กับ โครเกต์แกงเผ็ดเป็ดย่าง ที่เชฟนำเป็ดย่างมาคลุกกับข้าวหอมมะลิและพริกแกงแดง นำไปทอดจนสุกหอม กรอบนอกนุ่มในเสิร์ฟคู่มากับน้ำแกงเผ็ดเป็ดย่าง ต่อด้วยเมนูเพิ่มความสดชื่นกับเมนู ปูซ่อนรส ที่เชฟนำเนื้อปูทะเลผสมไข่มาปรุงรสในรูปแบบยำ เสิร์ฟพร้อมแตงกวาสด แตงกวาดอง เจลลี่แตงกวา และเจลลี่น้ำมะนาวสดด้านบน ไม่ควรพลาดเมนูซุป ที่เชฟพร้อมเสิร์ฟ โป๊ะแตกทะเล รสชาติจัดจ้านผสมผสานความเป็นไทยของเครื่องสมุนไพรในต้มยำโป๊ะแตก เข้ากับความเป็นตะวันตกของปลาค็อดพร้อมราวิโอลี่ซีฟู๊ดได้อย่างกลมกล่อม เพิ่มความสดชื่นก่อนถึงเมนูจานหลักด้วย กรานิต้าตะไคร้เสิร์ฟคู่แยมสัปปะรด อิ่มอร่อยกับเมนูจานหลักอย่าง แกงหมูใบชะมวงแบบจันทบุรี เคี่ยวจนรสชาติเข้มข้นเสิร์ฟพร้อม ยำใบชะมวง และ ข้าวกล้องผสมธัญพืชห่อใบบัว ที่ทางเชฟเลือกข้าวกล้องหอมมะลิมาคลุกเคล้าผสมกับธัญพืชมากมายผัดจนหอมและห่อในใบบัวเพิ่มความหอมอร่อย ปิดท้ายด้วยของหวานอย่างเมนู ลิ้นจี่กุหลาบ ของหวานรสชาติละมุนที่นำวานิลลาครีมรสกุหลาบเนื้อเนียน สอดไส้ด้วยลิ้นจี่สดและเคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตกลิ่นลิ้นจี่และขึ้นรูปแบบโฮมเมดให้เหมือนผลลิ้นจี่ เสิร์ฟคู่เจลลี่ยูซุ New Chef’s Table โดยเชฟชัชษร ประทุมมา พร้อมบริการคุณในมื้อค่ำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ในราคาท่านละ 2,700++ บาท ที่ห้องอาหารเฟลอริช ชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 02…
Author: Kittin Assavavichai
ร่วมเปิดประสบการณ์ดินเนอร์สุดประทับใจ ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู เต็มอิ่มไปกับรสชาติอันหลากหลายของเมนูอาหารอินเดียจานเด็ด ส่งตรงจากห้องอาหารจามุน (Jamun) ห้องอาหารชื่อดังแห่งประเทศอินเดีย บินลัดฟ้าจากเมืองกัวสู่กรุงเทพมหานคร นำทัพโดยเชฟพิคู (Picu) หนึ่งใน 10 เชฟดาวรุ่ง จัดอันดับโดย The Economic Times สำนักข่าวชื่อดัง และเป็นหนึ่งใน 30 เชฟชั้นนำประจำประเทศอินเดียสองปีซ้อน จัดอันดับโดย Culinary Culture นอกจากนี้ เชฟพิคู ยังนำห้องอาหารจามุน ได้รับรางวัลร้านอาหารที่ดีที่สุดลำดับที่ 25 โดยการจัดอันดับของ Condé Nast Traveller India’s Top Restaurant Awards 2023โดยเชฟพิคูนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องการยกระดับอาหารอินเดียแบบดั่งเดิมด้วยเทคนิคการประกอบอาหารสมัยใหม่ ครั้งนี้ทีมจากห้องอาหารจามุน และเชฟพิคู มาร่วมนำเสนอความหลากหลายของอาหารอินเดียพื้นเมืองอย่างสร้างสรรค์ เนรมิตเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษเพื่อพาทุกท่านได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์ของอาหารอินเดีย ลิ้มลองเมนูอาหารอินเดียจากเมืองกัวที่ครบเครื่องไปด้วยรสชาติอันจัดจ้าน ชูเอกลักษณ์ของดินแดนแห่งอารยธรรม ผ่านเมนูทั้ง 5 คอร์ส ไม่ว่าจะเป็น เมนูเห็ดมอเรล (Morel Mushrooms) หรือที่รู้จักกันในชื่อ เห็ดกุชชี่ (Gucchi Mushroom) เป็นเห็ดป่าราคาสูงจากประเทศอินเดีย ที่เก็บเกี่ยวได้เฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์นำมาปรุงรสเข้ากับครีมเห็ดทรัฟเฟิล เมนูคร็อกเก้เนื้อย่าง (Roasted Beef Croquette) ซึ่งได้มีการนำเนื้อย่างสูตรต้นตำรับเมืองกัวมาเพิ่มอรรถรสด้วยการผสมผสานกรรมวิธีการตุ๋นเนื้อแบบเอเชีย นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารทะเล แกงเคลลาชิ (Kalchi Kodi Cod) แกงกะทิรสกลมกล่อม หอมกรุ่นกลิ่นคั่วกระทิเข้มข้นจากมะพร้าวเมืองกัวเสิร์ฟคู่กับปลาค็อด และรวมถึงแกงหมูวินดาลู (Pork Vindalho) แกงซี่โครงหมูรสเด็ด เผ็ดร้อนด้วยพริกนานาชนิดและเครื่องเทศพื้นเมือง เสิร์ฟพร้อมยำส้มโอเพิ่มความสดชื่น ปิดท้ายมื้ออาหารด้วย เมนูขนมหวาน มัยซอร์ปาค (Mysore Pak mousse with besan crumbs and fresh berries) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบอินเดียตอนใต้ เนื้อสัมผัสละมุนลิ้นหอมกลิ่นเนย เสิร์ฟคู่กับเบอร์รี่สดนานาชนิด เพิ่มความลงตัวของมื้ออาหารตัดกับความจัดจ้านของเมนูจานหลักได้เป็นอย่างดี ค่ำคืนสุดพิเศษที่จะมอบความสุขแก่ทุกท่านด้วยประสบการณ์แห่งมื้ออาหารสไตล์อินเดียสุดพรีเมียมในราคา 1,599 บาท ต่อท่าน หรือ เพิ่มอรรถรสให้กับมื้ออาหารไปอีกขั้นด้วยเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรเฉพาะ ในราคา 1,999 บาท ต่อท่าน เพียง 2 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม 2567 ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ชั้น 60 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ 02 679 1200
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯจัดงานประมูลออนไลน์ ‘BE Health Online Auction’เพื่อระดมทุนสนับสนุนมูลนิธิออทิสติกไทยSharing Health through Shared Wealth โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมกับ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ จัดกิจกรรม ‘BE Health Online Auction’ หรือ การประมูลห้องพักออนไลน์ อีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมที่จัดขึ้นเพื่อระดมเงินช่วยเหลือมูลนิธิออทิสติกไทย (Autistic Thai Foundation) ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และบุคคลออทิสติก พร้อมกับจัดหายารักษาโรคและอุปกรณ์การแพทย์รวมทั้งสนับสนุนด้านสวัสดิภาพของผู้ที่มีภาวะออทิสติกและครอบครัว ในปี 2566 ที่ผ่านมา นับเป้นปีแรกของการจัดกิจกรรม โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สามารถระดมทุนได้ถึงหนึ่งล้านบาท มอบให้มูลนิธิออทิสติกไทย เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุน Autism Learning Center ศูนย์พัฒนาทักษะด้านการเรียนรู้สาหรับผู้มีภาวะออทิสติก โดยกิจกรรมนี้มุ่งส่งเสริมทักษะด้านกายภาพ สมอง และทักษะทางสังคมขั้นพื้นฐานของบุคคลผู้มีภาวะออทิสติกในประเทศไทย และในปีนี้ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ในการจัดกิจกรรม ‘BE Health Online Auction’ ซึ่งเป็นการประมูลห้องพักผ่านทางระบบออนไลน์ โดยทุกท่านสามารถเข้าร่วมกิจกรรมการประมูลห้องพักระดับสวีท จากโรงแรมในเครือเคมปินสกี้รวมทั้งสิ้น 15 แห่งจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยโรงแรมแต่ละแห่งจะตั้งอยู่ในเมืองสาคัญที่มี ความโดดเด่นทางประวัติศาสตร์ หรือมีชื่อเสียงด้านทัศนียภาพที่งดงาม ดังรายชื่อและรายละเอียดโรงแรมที่เข้าร่วมกิจกรรมด้านล่างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Siam Kempinski Hotel Bangkok ประเทศไทย ห้องพักประเภท Duplex Cabana จานวนสองคืน พร้อมอาหารเช้าและสิทธิการเข้าใช้บริการคลับเลาจน์ สาหรับสองท่าน Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ประเทศไทย ห้องพักประเภท Grand Executive Suite จานวนสองคืน พร้อมอาหารเช้าและสิทธิการเข้าใช้บริการคลับเลาจน์ สาหรับสองท่าน The Apurva Kempinski Bali ประเทศอินโดนีเซีย ห้องพักประเภท…
เปิดประสบการณ์อาหารสเปนระดับพรีเมียมในย่านสุขุมวิท: ทาปาส วีโน่กรุงเทพฯ ประเทศไทย — ห ้องอาหารทาปาส วีโน่ ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท ใจกลางเมือง ถือเป็นร้านอาหารที่เหมาะส าหรับผู้ที่ชนื่ ชอบการรับประทานอาหาร และค ้นหาร้านใหม่ๆ เพื่อให ้ทุกท่านได ้ค ้นพบกับอาหารสเปนระดับพรีเมียม ห ้องอาหารแหง่ นี้พรอ้ มเชญิ ใหทุกท่านได ้ ้ สมั ผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษในบรรยากาศที่อบอุ่น และเป็นกันเองทาปาส วีโน่ เป็นห ้องอาหารที่มีความอบอุ่น และหรูหรา โดยมีเมนูที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อตอบโจทยค์ วามตอ้ งการของนักชมิ คณุ สามารถเพลดิเพลนิ ไปกบั ชสี และโคลดค์ ทั ชนั้ เลศิ ทาปาสสเปนแบบดัง้เดมิ และเมนูหลักทมี่ ที ัง้อาหารทะเล และเนื้อสตั วห์ ลากหลายชนดิ ทกุ จานถกู ปรงุอย่างพิถีพิถันเพื่อความสมบูรณ์แบบนอกจากเมนูที่ยอดเยี่ยมแล ้ว ทาปาส วีโน่ ยังมีรายการไวน์ที่หลากหลาย ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เครื่องดื่มค็อกเทล และไวน์ของทาปาส วีโน่ จะเป็นการจับคู่ที่ลงตัวกับทุกจานอาหาร สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับทาปาส วีโน่ทาปาส วีโน่ เป็นจดุ หมายปลายทางส าหรับการเปิดประสบการณ์อาหารสเปนระดับพรีเมียมในย่านสุขุมวิท เชยี่ วชาญในเรอื่ งชสี โคลดค์ ัท ทาปาสสเปนแบบดัง้เดมิ และเมนูหลักอีกหลากหลายที่มาพร้อมกับไวน์ แชมเปญ และค็อกเทล ทาปาส วีโน่ มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองแก่ผู้มาเยือนสว่ นลดพเิศษส าหรับสมาชกิฮลิ ตัน ออนเนอรส์เพลดิเพลนิ กบั สว่ นลดสงู สดุ ถงึ 25% เพยี งสมัครเป็นสมาชกิฮลิ ตัน ออนเนอรส์ *การสมัครสมาชกิสามารถท าไดฟ้ รีที่ห ้องหารทาปาส วีโน่เงื่อนไขและข้อก…
โกจิ คิทเช่น + บาร์ ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ โรงแรมแบง ค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ขอเชิญทุกท่านมาร่วมฉลองเทศกาล “Oktoberfest” อย่างมีสไตล์ กับสุดยอดเมนู อาหารเยอรมันประจำเทศกาลสุดตระการตา และเครื่องดื่มอีกมากมาย เทศกาล “Oktoberfest” เป็นหนึ่งในเทศกาลอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการจัดขึ้นทุกปีในเมืองต่างๆ ทั่วเยอรมนีและทั่วโลก ซึ่งทางห้องอาหาร โกจิ คิทเช่น + บาร์ ก็ได้นำเทศกาลที่มีชีวิตชีวานี้มาสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ทุกท่านได้รื่นเริงไปกับบรรยากาศอันแสนสนุกสนานนี้ ทุกท่านสามารถมาลิ้มลองอาหารต้นตำรับแสนอร่อยมากมาย ได้แก่ สตูว์เนื้อวัว ชนิทเซิล (pork schnitzel) หรือเรียกอีกอย่างว่า หมูชุบแป้งทอด ขาหมู ไส้กรอกเยอรมัน ไส้กรอกขาว เสิร์ฟคู่กับมัสตาร์ดและกะหล่ำปลีหมัก บะหมี่สไตล์เยอรมัน และพาสต้าชีส โคลท์คัทสไตล์เยอรมัน ทานคู่กับชีสหลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีขนมและของหวานอีกมากมาย อย่าง ขนมปัง เพรทเซล แอปเปิ้ลสตรูเดิ้ล เบอร์รี่แช่อิ่ม เค้กแบล็คฟอเรสต์ และเอแคลร์สอดไส้ครีมในแบบของเยอรมัน นอกจากอาหารประจำเทศกาลแล้ว ยังคงสามารถเอร็ดอร่อยไปกับอาหารจานโปรดของทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเลสดใหม่ หอยนางรม ซูชิและซาซิมิ และเนื้อเกรดพรีเมี่ยมย่างร้อนบนเตาพาริลล่า หอยเชลล์ฮอกไกโดเซียร์บนกระทะ และมุมอาหารอิตาเลียนในวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่าง สลัดบูราต้า แฮนด์เมดพิซซ่า กุ้งแม่น้ำย่าง พร้อมปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอีกมากมาย จะจบค่ำคืนนี้แห่งการสังสรรค์ไปไม่ได้เลย หากยังไม่ได้เติมความสดชื่นด้วยแพ็คเกจเครื่องดื่มพรีเมียมไม่จำกัด ในราคาเริ่มต้นเพียง 699++ บาท มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยไปกับอาหารประจำชาติ และอีกหลากหลายอาหารนานาชาติรสเลิศ ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 นี้ที่ ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นวันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 17:30 – 22.00 น. ราคา 1,799++ บาทต่อท่าน บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 17:30 – 22.00 น. …
Story : Nutthawat J / Photo : Pol.Capt. Kittin A. สวัสดีทุกท่านมีชื่นชอบการรับประทานอาหารอย่างมีรสนิยมอีกครั้งครับ วันที่ ทาง Kinandleisure มีร้านอาหารดี ๆ มานำเสนออีกเช่นเคยครับ ในครานี้เป็นคิวของห้องอาหารจิมทอมป์สัน ห้องอาหารสุดมีคลาสใจกลางกรุง เมื่อรับชมพิพิธภัณฑ์เพลินๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถแวะเวียนมาลิ้มลองอาหารของภัตตาคารแห่งนี้ได้ ซึ่งล่าสุดได้ข้อมูลมาว่าทางร้านมีการเปลี่ยนเชฟใหม่ ไฉไลกว่าเดิม จะเป็นอย่างไร เราลองมาดูกันเลยครับ Location ห้องอาหารจิมทอมป์สัน ตั้งอยู่ในย่านเขตปทุมวัน อยู่ถัดจากหอศิลป์บ้านจิมทอมสันไปนิดเดียว สามารถเดินทางมาได้โดยสะดวกด้วยการนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ หรือสำหรับท่านที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ ก็สามารถใช้ที่จอดรถที่หอศิลป์จิมทอมสันได้เช่นกัน โดยห้องอาหารอยู่ที่ชั้น 1 ซึ่งท่านสามารถขึ้นไปชั้น 2 เพื่อไปลองลิ้มชิมรสสุดยอดค็อกเทลจาก The O.S.S Bar Bangkok ได้เช่นกันครับ Decoration Vintage Classic เรียบหรูดูดีมีสไตล์ ไม่ต้องมีคำบรรยายเพิ่มเติมใดๆ ให้ลึกซึ้ง ซึ่งภาพจำที่ผมตราตรึงคือความประทับใจแรกตั้งแต่เข้าประตูมาแล้วเห็นโลโก้ของร้านที่จัดทำอย่างสวยงาม องค์ประกอบของแสง สี และโต๊ะภายในร้านทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลามาในอดีต ในขณะที่มีความสะดวกสบายตามยุคสมัยของปัจจุบัน พร้อมให้ดื่มด่ำกันบรรยากาศแสง สี เสียง อย่างเป็นกันเอง ทั้งไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารกลางค่ำ หรือมื้อค่ำใต้แสงเทียน ก็สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศและรสอาหารสุดประทับใจ ด้วยบรรยากาศทั้งครัวเปิด ที่ทำให้เห็นการวาดลวดลายการปรุงของเชฟได้ ดุจดั่งเวทีการแสดงของเชฟเป็นอย่างดี อีกทั้งโซนนั่งด้านนอกอาคารที่ชมทัศนียภาพของบ่อบัวแสนสวย อาคารเรือนไทยดั่งเดิมของพิพิธภัณฑ์จิม อีกทั้งวิถีชีวิตชาวชุมชนริมคลองแสนแสบ การตกแต่งภายในของ Jim Thompson A Thai Restaurant สะท้อนความงดงามและหรูหราในแบบไทยประยุกต์ ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของวัฒนธรรมไทยดั้งเดิมกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ภายในร้านถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยใช้วัสดุที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย เช่น ไม้สักและผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Jim Thompson และการนำเลขไทยผสมผสานลงไปตามกำแพง เพดาน อีกทั้งโคมไฟ โทนสีและแสง ถูกเลือกมาอย่างมีเสน่ห์ โดยใช้โทนสีเข้มอบอุ่นเพื่อสร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลาย ไฟสลัวๆ ที่ประดับอยู่ในโคมไฟสไตล์ไทยช่วยเพิ่มความโรแมนติกและลึกลับให้กับห้องอาหาร Food โดยเมนูอาหารที่ทางทีมงาน Kinandleisure ได้ลองชิม เป็นเมนูอาหารมื้อกลางวัน ฝีมือของเชฟเล็ก ที่ผ่านการทำงานในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาวที่ฝรั่งเศสมาแล้ว หากท่านกำลังมองหามื้อกลางวันที่เต็มไปด้วยความอร่อยและรสชาติแบบไทยแท้ ทางร้าน…
Castello Di Bellagio Pattaya: A Journey Through Italian Elegance and Exquisite Flavors ท่ามกลางเสน่ห์ของพัทยา เมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา Castello Di Bellagio โดดเด่นราวกับปราสาทอิตาลีในฝัน ที่ซ่อนตัวอยู่ในบรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาลีแท้ ๆ แต่ยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับศิลปะการทำอาหารที่ปรุงอย่างพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบชั้นยอด จนถึงการนำเสนอเมนูที่มีความสร้างสรรค์ ไม่ว่าคุณจะมองหาอาหารมื้อค่ำที่มีเสน่ห์ หรือจะมาเป็นส่วนหนึ่งของงานเลี้ยงสุดหรูที่บรรยากาศเป็นกันเอง Castello Di Bellagio จะพาคุณเดินทางผ่านรสชาติแห่งอิตาลี ด้วยเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสูตรดั้งเดิม ผสมผสานกับการสร้างสรรค์ที่ทันสมัย พร้อมด้วยไวน์คุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรมาอย่างดี Castello Di Bellagio Pattaya เป็นร้านอาหารที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศหรูหราและการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ยุโรป โซนห้องจัดเลี้ยงใต้ดินที่กว้างขวางตกแต่งด้วยผนังอิฐโค้ง ผนังหรูและโคมไฟระย้า ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูอลังการ เพดานโค้งดั่งอุโมงและการจัดแสงแบบอบอุ่นเพิ่มความสง่างามและความหรูหรา เหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์และงานแต่งงาน ห้องส่วนตัวตกแต่งด้วยผนังไม้สีเข้มและแสงไฟที่นุ่มนวล ผสมผสานความหรูหราและอบอุ่นได้อย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและสงบ เหมาะสำหรับการพบปะครอบครัวหรืองานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่ต้องการความเป็นกันเอง ชั้นบนของร้านมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารพร้อมวิวทิวทัศน์งดงาม โต๊ะที่จัดริมหน้าต่างกระจกบานใหญ่ให้คุณได้ดื่มด่ำกับวิวพระอาทิตย์ตกดินและแสงไฟยามค่ำคืน สร้างความโรแมนติกและผ่อนคลายในทุกมื้ออาหาร ส่วนชั้นใต้ดินของร้านตกแต่งในบรรยากาศลึกลับและน่าตื่นตา ด้วยผนังหินและเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม ทำให้ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในปราสาทยุโรป มอบความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบ เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารในบรรยากาศที่น่าค้นหา ห้องเก็บไวน์ของร้านสร้างบรรยากาศคล้ายห้องใต้ดินยุโรป เต็มไปด้วยไวน์หลากหลายชนิดจากทั่วโลก ชั้นวางไวน์ที่เรียงรายอย่างสวยงามและอุณหภูมิที่ควบคุมอย่างเหมาะสม ทำให้พื้นที่นี้เป็นจุดเด่นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบไวน์ สามารถเลือกไวน์มาจับคู่กับอาหารได้ตามความต้องการ พร้อมทั้งยังเป็นสถานที่จัดชิมไวน์ที่หรูหราและมีระดับ Burrata Caprese เมนูที่ผสมผสานความหอมมันของ Burrata ชีสนุ่มละมุนลิ้น เข้ากับรสชาติสดชื่นของผักร็อกเก็ตป่าและเบอร์รีหลากชนิดอย่างสตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รี เพิ่มความสดใหม่ด้วยมะเขือเทศเชอร์รี่สีแดงที่ให้ความหวานอมเปรี้ยวทุกคำ น้ำสลัดเลมอนน้ำผึ้งและบัลซามิกช่วยเสริมความกลมกล่อมของเมนูนี้ให้มีความซับซ้อนทั้งหวาน เปรี้ยว มัน เค็ม ครบถ้วน นี่คือความสดชื่นที่สะท้อนถึงฤดูร้อนอันสวยงามของอิตาลีที่ถูกนำมารังสรรค์ให้ทันสมัยในแบบ Caprese ที่ลงตัว Jamón Ibérico Salad สลัดที่ใช้วัตถุดิบชั้นสูงอย่าง Jamón Ibérico แฮมชั้นเลิศจากสเปนที่มีรสชาติเข้มข้น เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน ผสานเข้ากับเบบี้สปินนาชที่มีรสขมนิด ๆ และความกรุบกรอบของถั่วไพน์นัท เพิ่มความหวานอมเปรี้ยวด้วยแครนเบอร์รีแห้ง และความเค็มมันของชีส Parmigiano Reggiano น้ำสลัดบัลซามิกที่มีรสหวานปลายดั่งน้ำผึ้งทำให้เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อม ทุกองค์ประกอบในจานนี้เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบ ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และถั่ว ทำให้เมนูนี้เป็นความสมดุลของรสชาติและสัมผัส Caesar Salad…
SIRIVANNAVARI MAISON x Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok สร้างสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายเมนูใหม่ล่าสุดในธีม Garden of Eden แรงบันดาลใจจากสีสันแห่งงานจิตรกรรมอิมเพรสชั่นนิสต์ ในเดือนกันยายนอันชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝน SIRIVANNAVARI MAISON ร่วมกับโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ อันมีชื่อเสียงในด้านการมอบประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายอันหรูหราใจกลางเมือง สร้างสรรค์เมนูชุดน้ำชายามบ่ายใหม่ล่าสุดในธีม Garden of Eden ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันแห่งงานจิตรกรรมอิมเพรสชั่นนิสต์อันเป็นภาคต่อจากซีรีส์แรกที่รังสรรค์ขึ้นในเดือนแห่งความโรแมนติคในช่วงต้นปีที่ผ่านมา รื่นรมย์ไปกับการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะไปกับชุดน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษ Garden of Eden โดย SIRIVANNAVARI MAISON x Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok พร้อมเสิร์ฟทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2567 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 13:00 – 18:00 น. ณ ล็อบบี้ เลานจ์ ในราคาชุดละ 3,200++บาท สำหรับ 2 ท่าน สามารถเติมชาเพิ่มได้ท่านละ 1 ครั้ง Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ…
ในปีนี้ เทศกาลไหว้พระจันทร์กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการประชันขนมไหว้พระจันทร์สุดพิเศษจากโรงแรมชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ ความพิเศษอยู่ที่การผสมผสานรสชาติใหม่และการคงความดั้งเดิม รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบอย่างหรูหรา เหมาะสำหรับทั้งการเฉลิมฉลองและมอบเป็นของขวัญให้กับคนสำคัญ มาดูกันว่าแต่ละโรงแรมได้นำเสนอขนมไหว้พระจันทร์ที่โดดเด่นอย่างไรบ้าง โดยในคอลัมน์นี้เรารวบรวมจากการชิมจริง เปิดและแกะกล่องจริง เป็นรีวิวที่ปราณีตทำขึ้นมามิใช่การเพียงรวมข่าวหรือข้อมูล 1. Silk Road at The Athenee A Luxury Collection Bangkok Silk Road ยังคงสร้างความประทับใจด้วยรสชาติขนมไหว้พระจันทร์ที่หลากหลาย ทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ ไฮไลท์ปีนี้คือ ไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม และ ไส้ดาร์กช็อกโกแลตทุเรียนจันทบุรี ที่ผสมผสานระหว่างความหวานและความมันอย่างลงตัว กล่องลายพิเศษที่ออกแบบด้วยลวดลายดอกไม้และนกสีพาสเทล ยิ่งเพิ่มความหรูหราให้กับขนมชุดนี้ <อ่านต่อคลิกที่นี่> 2. Baiyun at Banyan Tree Bangkok Baiyun โดดเด่นด้วยขนมไหว้พระจันทร์ที่มีทั้งรสชาติคลาสสิกอย่าง ทุเรียน เม็ดบัว และสร้างสรรค์ เช่น ไส้เนยถั่วช็อกโกแลต สำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มลองรสชาติใหม่ กล่องปีนี้มาในสไตล์เรียบหรู ที่ให้ความรู้สึกทันสมัยและสง่างาม ลิ้มรสขนมไว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับแห่ง Baiyun, Banyan tree Bangkok, DRAGON TREASURE DELIGHT MOONCAKE 2024 <อ่านต่อคลิกที่นี่> 3. Sindhorn Kempinski ขนมไหว้พระจันทร์ปีแรกของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ บรรจุในกล่องสีแดงหรูซึ่งเป็นสัญญลักษณ์แห่งความโชคดี ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ตกแต่งเพิ่มความหรูหราด้วยลวดลายสีทอง เหมาะเป็นของขวัญหรือของฝากสำหรับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้ร่วมธุรกิจ ขนมไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิมของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ มีให้เลือกสรร 4 รสชาติ ได้แก่ <อ่านต่อคลิกที่นี่> 4. Man Ho at JW Marriott Bangkok Man Ho โดดเด่นในเรื่องของขนมไหว้พระจันทร์รสชาติคลาสสิก เช่น ไส้ลูกบัวไข่เค็ม ไส้ทุเรียนไข่เดี่ยว โหงวยิ้ง ฯลฯ ที่มีความหอมหวานจากกลีบกุหลาบอันโดดเด่น กผสานความงดงามของศิลปะจีนโบราณเข้ากับการออกแบบที่ประณีต สู่กล่องขนมไหว้พระจันทร์ JW Marriott Bangkok Mooncake 2024…
กลับมาอีกครั้ง กับเทศกาลอาหารประจำปี ของโรงแรมโซ แบงคอก ที่ทุกท่านรอคอย กับ SO Amazing Chefs 2024 ฉลองครบรอบ 12 ปี งานเทศกาลอาหาร SO Amazing Chefs ที่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษ และอาหารเลิศรสให้ทุกท่านได้ลิ้มลองกับคอนเซปต์ ‘WHERE FLAVOR MEETS MASTERY’ พบกับสุดยอดเชฟ 9 ท่าน ระดับนานาชาติมืออาชีพมากด้วยฝีมือ รวมมิชลิน 8 ดาว พร้อมเสริมทัพความอร่อยด้วยทีมเชฟของทางโรงแรมฯ ที่จะมาร่วมกันรังสรรค์ส่งมอบความอร่อยสุดแสนประทับใจ ผ่านหลากหลายโปรแกรมอาหารถึง 10 โปรแกรม ตลอด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 – 20 กันยายน พ.ศ. 2567 ประทับใจมิรู้ลืม กับประสบการณ์บนโต๊ะอาหารรูปแบบใหม่ พร้อมตื่นเต้นไปกับเมนู และโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในแต่ละวัน ที่จะมายกระดับมื้ออาหารของคุณให้อร่อยยิ่งกว่าเคย อาทิ Michelin on the Move, The VIP Table, Cheese at SO/, SO Amazing Chefs Sunday Brunch และโปรแกรมพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย พลาดไม่ได้กับโปรแกรมแนะนำ ‘SO Amazing Chefs Culinary Showdown’ ที่ทุกท่านชื่นชอบตลอดกาล อิ่มอร่อยพร้อมสนุกตื่นเต้นตลอดมื้ออาหารไปกับการชมการแข่งขันทำอาหารโดยเชฟชื่อดังมากฝีมือ หรือเลือก ‘SO Amazing Chefs Dinner Cruise’ กับมื้อค่ำสุดหรู พร้อมล่องเรือดื่มด่ำชมพระอาทิตย์ตกดิน และเพลิดเพลินกับบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดมื้อพิเศษนี้ พิเศษ! จอง SO Amazing Chefs 2024 ล่วงหน้า กับโปรโมชั่น Early Bird ตั้งแต่วันนี้ – 31…