Author: Kittin Assavavichai

โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เชิญคุณเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับ ชุดน้ำชายามบ่าย Festive Afternoon Tea ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราโอ่โถงของล็อบบี้ ที่ได้รับรางวัล Best Hotel Lobby Interior of Thailand and Best International Hotel Lobby Interior จาก International Property Awards ลิ้มลอง ชุดน้ำชายามบ่าย Festive Afternoon Tea ที่ทีมเชฟผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ในการรังสรรค์เมนูสุดพิเศษที่ปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถันและเสิร์ฟคู่กับชาระดับพรีเมี่ยมหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกตามความชอบ รวมทั้งชาสมุนไพรออร์แกนิก ชงโดยทีมาสเตอร์ หรือพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านชาของโรงแรมฯ ที่จัดเตรียมมาเสิร์ฟเพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขนี้ เริ่มต้นด้วย Cranberry Cinnamon Granita เมนูเพิ่มความสดชื่นก่อนจิบชา ที่รังสรรค์จากแครนเบอร์รี่สดผสมผสานกลิ่นหอมของชินนาม่อน นำไปแช่เย็นและนำมาปั่นเป็นเกล็ดน้ำแข็งชมพูอมแดงสดใส เสิร์ฟในดาร์ก ช็อกโกแลตที่ถูกดีไซน์ให้ดูละม้ายคลายกะลามะพร้าวขนาดกระทัดรัด อิ่มอร่อยกับสโคนสูตรต้นตำรับสุดคลาสสิค (Plain Scones) และ สโคนแครนเบอร์รี่สไปส์ (Spiced Cranberry Scones) เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดเจลลี่แอ๊ปเปิ้ลชินนาม่อน, แมนดารินเคิร์ด และ คล็อตเต็ดครีม กรุ่นกลิ่นความหอมกับเมนูของว่างยามบ่าย ไม่ว่าจะเป็น แคร๊กเกอร์ต้มยำกุ้ง (Tom Yum Goon Textures) – สลัดต้มยำกุ้งเสิร์ฟบนแคร๊กเกอร์ข้าวตังกรอบ, โรลลิ้นจี่สลัดเนื้อปู (Crab & Lychee Cannellloni) –โรลสีชมพูที่ทำจากเจลลี่รสลิ้นจี่สอดไส้ด้วยสลัดเนื้อปูรสชาติกลมกล่อม ออนท๊อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์, แซลม่อนรมควันและมูสส้มแมนดาริน (Smoked Salmon, Mandarin Mousseline, Ikura) –ปลาแซลม่อนรมควันเสิร์ฟพร้อมมูสส้มแมนดารินและไข่ปลาแซลม่อน, ทาร์ตไก่สูตรพิเศษ (Coriander Chicken) – พัฟฟ์เซโมลินาเสิร์ฟคู่กับเนื้อไก่บดผสมเครื่องเทศ ปิดท้ายเมนูของคาวด้วย ทาร์ตอกเป็ดรมควัน (Smoked Duck Breast) – ทาร์ตเนื้อป็ดรมควันสูตรพิเศษเสิร์ฟคู่กับเจลแอ๊ปเปิ้ล ลิ้มลองเมนูของหวานและเบเกอรี่เพื่อเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็น แบล๊กเบอร์รี่โฟม (Blackberry Foam) – ตุ๊กตาสโนว์แมนสีขาวสอดได้ด้วยแบล๊กเบอร์รี่มูส,…

Read More

โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบช่วงเวลาพิเศษส่งท้ายปีร่วมกับสวารอฟสกี้ (Swarovski) ด้วยกล่องของขวัญ และชุดน้ำชายามบ่ายธีมเฟสทีฟ คอลเลกชันพิเศษเพื่อมอบให้แก่คนที่คุณรักในช่วงเวลาสำคัญนี้ รวมถึงพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี มื้ออาหารในเทศกาลคริสต์มาส วันส่งท้ายปี และวันปีใหม่ที่ห้องอาหารวูว์ ไปถึงเครื่องดื่มและการตกแต่งพิเศษกว่าครั้งใดที่เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์เพื่อเตรียมต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง พร้อมกับเก็บภาพความทรงจำด้วยตู้ถ่ายรูปดีไซน์พิเศษจาก YOURS ในช่วงเทศกาล ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ตลอดไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 พิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี เพื่อเป็นการเริ่มต้นเทศกาลส่งท้ายปีอย่างเป็นทางการ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ขอเชิญชวนแขกทุกท่านมาร่วมงานพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปีที่ปีนี้ร่วมมือกับสวารอฟสกี้ภายใต้ธีม “Timeless Wonder” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวาระครบรอบ 130 ปีของแบรนด์สวารอฟสกี้ เนรมิตโรงแรมให้งดงามเหนือกาลเวลา ต้อนรับแขกทุกท่านด้วยต้นคริสต์มาส ที่สูงกว่า 5 เมตร ตั้งอยู่บริเวณโถงทางเข้าชั้น 1 ของโรงแรม ซึ่งถูกตกแต่งอย่างอลังการด้วยกล่องรูปทรงแปดเหลี่ยมทรงคริสตัลประทับด้วยโลโก้หงส์อันเป็นเอกลักษณ์ของสวารอฟสกี้ และลูกบอลสีเงิน และสีทอง พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่ม และเสียงเพลงบรรเลงที่ล็อบบี้ ไปจนถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ สถานที่: ล็อบบี้ชั้น 1 ของโรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯวันและเวลา: วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18:00 น. เป็นต้นไป กล่องของขวัญปีใหม่ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ มอบกล่องของขวัญปีใหม่ (Festive Hampers) ประจำปี 2568 สุดพิเศษจากความร่วมมือกับแบรนด์สวารอฟสกี้ โดยในแต่ละกล่องมีของขวัญสุดพิเศษจากแบรนด์สวารอฟสกี้ 1 ชิ้นเพื่อเพิ่มความประทับใจให้แก่ผู้รับ นอกจากนี้ภายในยังประกอบด้วยผลิตภัณฑ์และขนมระดับพรีเมียมที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน อาทิ กาแฟสกัดเย็นสูตรพิเศษจากแบรนด์ Sarnies, ขนมอิตาเลียนบิสคอตติ (Italian Biscotti), คุกกี้อมาเรตติ (Amaretti Cookies) ขนมสโตลเลนคริสต์มาสสูตรคลาสสิก (Classic Christmas…

Read More

“เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” เปิดตัวสาขาใหม่ โครงการคิงสแควร์ (พระราม 3 พร้อมนิทรรศการศิลปะ Abstract โดยศิลปิน “ชรัณธันย์ ธนโชติปรมัตถ์ (CHAR)” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Echoes of The Everyday” พร้อมเปิดตัวเมนูพิเศษจากเชฟเกียม บาร์บ (Guillaume Barbe)  ในคอลเลกชัน “Art x Edible Collaboration” กรุงเทพฯ, วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ประเทศไทย (The Coffee Academïcs Thailand) ร้านคาเฟ่สเปเชียลตี้ระดับพรีเมียมจากฮ่องกง ภายใต้การบริหารของ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เดินหน้าขยายสาขาที่ 4 อย่างเป็นทางการ ณ โครงการคิงสแควร์ คอมมูนิตี้มอลล์ (พระราม 3) โดยสาขาใหม่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลยุทธ์ “Coffee + Brunch + Community” ที่ผสานมาตรฐานกาแฟสเปเชียลตี้จากฮ่องกง เข้ากับพลังสร้างสรรค์ของย่านเมืองกรุงเทพฯ ผ่านบรรยากาศร้านโทนสว่าง อบอุ่น และเป็นมิตร เหมาะสำหรับทุกคน ตั้งแต่นักเรียน ครอบครัว คนทำงาน ไปจนถึงครีเอเตอร์รุ่นใหม่ “การเปิดสาขาคิงสแควร์คือหมุดหมายสำคัญของกลยุทธ์ Coffee + Brunch + Community เรานำความพิถีพิถันของสเปเชียลตี้คอฟฟี สไตล์ฮ่องกง มาผสานกับพลังสร้างสรรค์ของย่านเมืองกรุงเทพฯ ผ่านเมนูบรันช์ เบเกอรีสดใหม่ และเป็นคอมมูนิตี้แห่งใหม่ เพราะกาแฟที่ดี ไม่ใช่เพียงเรื่องของรสชาติ แต่คือการจุดประกายบทสนทนาที่มีความหมาย” “More Than Coffee” Art x Edible Collaboration – การผสานงานศิลป์กับศิลปะแห่งรสชาติ ในโอกาสเปิดตัวสาขาใหม่นี้ “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” นำเสนอการร่วมมือระหว่างศิลปะและอาหาร ภายใต้แนวคิด “More than…

Read More

เปิดประสบการณ์ความอร่อยของเสน่ห์อาหารจากภาคใต้ของประเทศไทยกับมื้อค่ำสุดพิเศษ Four-Hand Dinner: Flourish x Thai Library รังสรรค์โดยสองเชฟมากฝีมือ เชฟชัชษร ประทุมมา จากห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปิสกี้ กรุงเทพฯ และ เชฟรัตติ์บอร์น พุ่มศิรินันท์ จากห้องอาหารไทย ไลบรารี จังหวัดภูเก็ต ที่พร้อมถ่ายทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมผ่านรสชาติอันกลมกล่อมที่แฝงไว้ด้วยความร่วมสมัย ผสานกับแรงบันดาลใจในการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงอาหาร โดยมื้อค่ำสุดพิเศษนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายนนี้ ณ ห้องอาหารเฟลอริช ชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เชฟชัชษร ประทุมมา Executive Sous Chef โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ หนึ่งในเชฟหญิงไทยที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความอร่อยของอาหารไทยสู่เวทีโลก เชฟชัชษรมีโอกาสได้ร่วมงานกับห้องอาหารชั้นนำทั้งในยุโรป ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงราชสำนักฮัชไมท์แห่งประเทศจอร์แดน ด้วยประสบการณ์ผนวกกับทักษะในการทำอาหารที่ได้รับมาจากห้องอาหารระดับนานาชาติและโรงแรมหรูในสวิตเซอร์แลนด์ เชฟชัชษรมีความโดดเด่นในการรังสรรค์เมนูอาหารที่ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบ พร้อมที่จะสร้างสรรค์หลากหลายเมนูความอร่อยให้ประทับใจแขกผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก เชฟรัตติ์บอร์น พุ่มศิรินันท์ เชฟเดอ คูซีน จากห้องอาหารไทย ไลบรารี จังหวัดภูเก็ต เชฟผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารและมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับเชฟระดับมิชลินสตาร์มากมาย พร้อมที่จะรังสรรค์เมนูรสเลิศที่ผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นและภูมิปัญญาแห่งศาสตร์อาหารไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ นอกจากทักษะและความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหาร เชฟรัตติ์บอร์นยังมีความมุ่งมั่นในการนำเสนอการปรุงอาหารในแนวคิดแบบยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น อีกทั้งยังฟื้นฟูศาสตร์การปรุงอาหารตำรับโบราณและสืบสานภูมิปัญญาอาหารไทยแบบดั้งเดิม ทำให้แต่ละเมนูของเชฟรัตติ์บอร์นสามารถบอกเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรม ความยั่งยืน และศิลปะแห่งการปรุงอย่างแท้จริง. อิ่มอร่อยไปกับเมนู 7 คอร์สสุดพิเศษ ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยเริ่มต้นด้วยเรียกน้ำย่อยอย่าง เบือทอดใบเล็บครุฑ เมนูที่เป็นที่นิยมของภาคใต้ เมนูที่นำกุ้งขนาดกำลังดีมาคลุกเคล้ากับแป้ง นำไปทอดกรอบคู่กับใบเล็บครุฑ ผักพื้นเมืองของภาคใต้และมะพร้าวขูด (**เบือ เป็นภาษามลายูแปลว่า ผักผสมแป้งทอดกรอบ) ตามด้วย ปลากหมึกผัดเคยภูเก็ต ที่นำปลาหมึกมาผัดกับกะปิที่ทำจากกุ้งเคยแท้จากภูเก็ต เสิร์ฟคู่กับสัปปะรดภูเก็ต และข้าวหมากที่ทำจากข้าวเหนียว อร่อยต่อด้วย ยำใบชะครามแบบสุราษฎร์ธานี เมนูที่ชูผักท้องถิ่นของภาคใต้ เสิร์ฟพร้อมไข่นกกระทาและหมูคุโรบูตะที่นำไปปรุงด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้รสชาตินุ่มชุ่มลิ้น ลิ้มลองเมนู สะเต๊ะแพะ ที่นำเนื้อแพะไปหมักเครื่องเทศ นำไปย่างด้วยเตาถ่าน ส่งกลิ่นหอมชวนชิม ตามต่อด้วย ปลากระบอกต้มกะทิใบเหลียง เมนูปักษ์ใต้ขนานแท้ อิ่มอร่อยกับสำรับเมนูอาหารปักษ์ใต้จานหลัก 4 เมนู ที่พร้อมเสิร์ฟให้แขกทุกท่านได้ลิ้มลองพร้อมข้าวหอมมะลิหุงด้วยน้ำมะพร้าวน้ำหอม ได้แก่ …

Read More

ห้องอาหารเฟลเวอร์ส (Flavors) โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ พร้อมเสิร์ฟความสนุกสนานและสีสันให้ทุกมื้อค่ำ กับ Surf & Turf Dinner Buffet บุฟเฟต์สุดประทับใจที่รวมซีฟู้ดสดใหม่และเนื้อพรีเมียมไว้ในมื้อเดียวเริ่มต้นด้วยซีฟู้ดออนไอซ์สุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นปูอลาสก้าคิงแครบ กุ้งแม่น้ำ ล็อบสเตอร์ กั้ง และหอยนานาชนิด ทั้ง หอยนางรมฟินเดอแคลร์ (Fine de Claire) หอยนางรมนอร์มังดี (Normandy) และหอยนางรมเกาหลี พร้อมด้วยสเตชั่นอาหารญี่ปุ่นสดใหม่ ที่เสิร์ฟซูชิและซาชิมิเกรดพรีเมียม ทั้งแซลมอน ทูน่า ฮามาจิ และวากิว นิกิริ เพลิดเพลินกับมุมเนื้ออบและกริลล์แบบสดใหม่ ที่นำเสนอเนื้อพรีเมียมอย่าง เนื้อไพร์มริบออสเตรเลีย เนื้อวากิวบริสเก็ต รมควันสไตล์เท็กซัส ขาแกะอบ แซลมอนนอร์เวย์ และหอยเชลล์อเมริกาย่างเสิร์ฟร้อน นอกจากนี้ยังมีมุม BBQ ปิ้งย่างสดใหม่ ทั้งกุ้งแม่น้ำ หมึก เนื้อวัว และซี่โครงแกะ หลากหลายเมนูเด่น นานาชาติ ที่มาเติมเต็มความอร่อย ทั้งซุปล็อบสเตอร์บิสก์ หอยนางรมร็อคกีเฟลเลอร์ (Oysters Rockefeller) ปูผัดซอสพริกสไตล์สิงคโปร์ มัสมั่นแก้มวัว และก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิวรสเข้มข้น ปิดท้ายค่ำคืนแสนอร่อยด้วยหลากหลายเมนูของหวานสุดประทับใจ ทั้งบานาน่าฟอสเตอร์เฟลมเบ้ (Flambé Banana Foster) ช็อกโกแลตสูตรเข้มข้นหลากรส ชีสเค้ก ไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมด ไปจนถึงขนมไทยสุดคลาสสิกอย่างข้าวเหนียวมะม่วง Surf & Turf Dinner Buffet ราคาเริ่มต้นเพียง 1,599++ บาทต่อท่าน เด็กอายุ 6–12 ปี รับส่วนลด 50% และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี รับประทานฟรี เพิ่มความพิเศษให้มื้อค่ำของคุณด้วยแพ็กเกจเครื่องดื่มไม่อั้นราคา 199 บาทสุทธิ ต่อท่าน – ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ราคา 499 บาทสุทธิ ต่อท่าน – ชา กาแฟ น้ำอัดลม…

Read More

กูร์เมท์ วัน กรุ๊ป (Gourmet One Group) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำของเมืองไทย โดยคุณพัชรินทร์ เหมอังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ จับมือสหพันธ์ผู้ส่งออกเนื้อสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Meat Export Federation) และแบรนด์ Certified Angus Beef (CAB) จัดแคมเปญส่งท้ายปี 2025 อย่างยิ่งใหญ่ด้วย “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” มอบรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกันเกรดพรีเมี่ยมที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกในด้านความนุ่ม ความฉ่ำ และรสชาติที่เข้มข้นให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลอง “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2025 นำเสนอเนื้อวัวพรีเมียมจากแบรนด์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Swift, 1855 และ Imperial American Wagyu Beef โดยมีโรงแรมระดับ 5 ดาว และร้านอาหารชั้นนำในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และขอนแก่นรวม 30 แห่ง เข้าร่วมแคมเปญนำเสนอเมนูพิเศษที่ปรุงด้วยเนื้อวัวพรีเมี่ยมจากทั้ง 3 แบรนด์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารที่บ้าน เนื้อวัวคุณภาพสูงเหล่านี้จะวางจำหน่ายที่ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 21 สาขาที่ร่วมรายการ เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลองเนื้อวัวที่ได้รับการยกย่องระดับโลกในเรื่องความนุ่ม ความฉ่ำ และรสชาติที่เข้มข้นถึงบ้าน งานเปิดตัว “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” จัดขึ้นที่โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากผู้แทนจากสหพันธ์ผู้ส่งออกเนื้อสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (USMEF) และแบรนด์ Certified Angus Beef (CAB) มาร่วมงาน พร้อมมอบเครื่องหมาย “American Beef Feast…

Read More

โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ ยินดีประกาศแต่งตั้ง เชฟอเลสซิโอ บันเคโร เป็นเชฟเดอ คูซีนคนใหม่ของ Embassy Room La Marina ห้องอาหารอิตาเลียนแนวชายฝั่งทะเล เชฟอเลสซิโอมีต้นกำเนิดจากเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี นำประสบการณ์ด้านการทำอาหารกว่า 20 ปี มายกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ Embassy Room La Marina โดยนำเสนอคอนเซ็ปต์อาหารใหม่ที่รสชาติสดชื่นและมีชีวิตชีวาของชายฝั่งอิตาลี ควบคู่ไปกับเมนูอิตาเลียนยอดนิยมและต้นตำรับที่หลายคนคุ้นเคย เชฟอเลสซิโอเติบโตขึ้นในเมืองชายฝั่งเจนัว ความหลงใหลในการทำอาหารเริ่มต้นจากห้องครัวที่ร้านอาหารของคุณป้า รวมถึงท่าเรือใกล้เคียงที่เขาใช้เวลาเฝ้าดูชาวประมงทำงานอย่างใกล้ชิด ด้วยความสนใจในวัตถุดิบทะเลสดใหม่ที่ชาวประมงจับมาได้ในแต่ละวัน ประสบการณ์เหล่านี้ได้หล่อหลอมความรักในอาหารที่ใช้วัตถุดิบแท้จริง เชฟอเลสซิโอจบการศึกษาจากสถาบัน Culinary Institute Nino Bergese ที่มีชื่อเสียงในเจนัว และได้ฝึกฝนฝีมือจากร้านอาหารเด่น ๆ ทั่วโลก เช่น Zeffirino และ Ristorante Il Veliero ในเจนัว รวมถึงร้านอาหารที่ได้รับการยอมรับในสหรัฐอเมริกา ไทย อินเดีย และเกาะมอริเชียส แม้จะมีชื่อเสียงด้านรสชาติอาหารชายฝั่งอิตาลี เชฟอเลสซิโอยังเชี่ยวชาญในอาหารอิตาเลียนคลาสสิกโดยรวม โดยมีความเข้าใจลึกซึ้งในสูตรดั้งเดิมที่หลากหลาย เมนูซิกเนเจอร์ของเชพคือ “Spaghetti alle vongole e bottarga” สปาเก็ตตี้วองโกเล่ที่มาพร้อมหอยตลับ ไข่ปลาคาราสุมิ และเปลือกเลมอนเชื่อม สะท้อนรสชาติบ้านเกิดของเชฟ อีกเมนูโปรดของลูกค้าคือ “Casoncelli di Gamberi e Salsa alle Zucchine” เกี๊ยวไส้กุ้งเสิร์ฟกับซอสซูกินี บูราต้า ถั่วลันเตา และกุ้งแดงมาซารา เดลวัลโล ซึ่งเป็นเมนูที่ถูกใจคนรักกุ้งอย่างแท้จริง “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมงานกับพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ และได้มีโอกาสร่วมสร้างสรรค์ในวงการอาหารของเมืองที่น่าทึ่งนี้” เชฟอเลสซิโอกล่าว “การได้ทำงานร่วมกับเชฟแดเนียล มาสเตอร์ส และทีมงานที่มีฝีมือ ผมตั้งใจที่จะสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำด้วยเมนูที่ตอบโจทย์คนไทยที่ชื่นชอบรสชาติต้นตำรับและจัดจ้าน” ตั้งอยู่บนชั้น 9 ของพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ Embassy Room La Marina มอบบรรยากาศที่ผสมผสานความหรูหราอย่างผ่อนคลาย ได้แรงบันดาลใจจากความอบอุ่นของวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนและเสน่ห์ของหมู่บ้านชาวประมง สัมผัสรสชาติแท้จริงของเชฟอเลสซิโอ ที่รังสรรค์อาหารจากภูมิภาคชายฝั่งอิตาลีควบคู่ไปกับเมนูอิตาเลียนยอดนิยมแบบต้นตำรับ เชิญทุกท่านมาร่วมแบ่งปันและเก็บรักษาความทรงจำที่งดงามนี้ด้วยกัน…

Read More

ภูเก็ต — RAVA Beach Club บีชคลับที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยใจกลางหาดบางเทา จ.ภูเก็ต เปิดสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับหนึ่งเดียวในภูเก็ตกับ Pura Vida Sunday Brunch พร้อมชวนทุกคนลืมภาพเดิม ๆ ของ Sunday Brunch แล้วมาเอ็นจอยกับอาหารเลิศรสในบรรยากาศสุดชิลที่หาจากที่อื่นไม่ได้ โดย RAVA Beach Club ต่อยอดความพิเศษของบรันช์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานของบันยันทรี ภูเก็ต พร้อมรังสรรค์ประสบการณ์ให้เข้ากับสายไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ นำเสนอไลน์อัปจัดเต็มทั้งซีฟู้ดสด ๆ เนื้อดรายเอจคุณภาพระดับโลก อาหารไทยรสจัดจ้าน ท่ามกลางชายหาดสุดเอกซ์คลูซีฟและดนตรีสดแสนผ่อนคลาย กลายเป็นประสบการณ์ที่สายบรันช์และสายชิลห้ามพลาด บุฟเฟ่ต์ Sunday Brunch เสิร์ฟทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 12.00-15.30 น. นอกจากลูกค้าจะได้ลิ้มรสอาหารคาวหวานรสชาติเยี่ยมอย่างจุใจแล้ว ยังสามารถชิลที่สระว่ายน้ำและพื้นที่พักผ่อนริมหาดบางเทาของ RAVA ที่ทอดยาวกว่า 180 เมตรได้ด้วย ทั้งหมดนี้นำเสนอในราคาสุทธิ 2,900 บาทต่อท่าน โดยลูกค้าจะได้รับ House Wine 1 ขวดสำหรับ 2 ท่าน รังสรรค์โมเมนต์ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมความหมาย Pura Vida หมายถึงจังหวะชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสุขอันเรียบง่าย โดยบรันช์ที่นี่คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบสดใหม่ ใส่เทคนิคการปรุงที่พิถีพิถัน และเสิร์ฟในบรรยากาศวิวทะเลอันงดงาม โดยเมนูอาหารจะหมุนเวียนไปทุกเดือน เพื่อให้แขกได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ ตามฤดูกาล เปิดไลน์อัปอาหารสุดพรีเมียมจากวัตถุดิบโลคอลและทั่วโลก ไลน์อัพบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นด้วยสเตชันซีฟู้ดสดที่เสิร์ฟหอยนางรมฝรั่งเศสคู่กับซอสและเครื่องเคียงที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน แถมยังจัดเต็มกับซาชิมิทูน่า แซลมอน และฮามาจิ ที่ปรุงรสอย่างเรียบง่ายเพื่อชูรสชาติความสดของวัตถุดิบ ที่ขาดไม่ได้คือสเตชันซีฟู้ดย่างเตาถ่าน นำหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปูม้า กุ้งลายเสือจากท้องถิ่นมาย่างถ่านจนหอม พร้อมชูความสดจากท้องทะเลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อกันด้วยไลน์ชาร์กูเตอรีที่คัดสรรเนื้อคุณพรีเมียม ภาพเยี่ยม ทั้งวากิวเบรซาโอลาสไลซ์บาง ๆ เซอราโนแฮม พาสตรามี และมอร์ตาเดลลา เสิร์ฟคู่กับชีสสัญชาติไทยคุณภาพเยี่ยม ขนมปังซาวร์โดว์ และเครื่องเคียง นอกจากนี้ยังมีเมนูไส้กรอกหลากสไตล์ ย่างร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมซอสหลายรสชาติ อีกมุมไฮไลต์คือโซนที่เปิดให้แขกมาชมการทำอาหารอย่างใกล้ชิด โดยมีเชฟซูชิมาทำมากิและนิกิริสดใหม่ และเชฟพาสต้าที่มารังสรรค์เมนูจานต่อจาน โดยให้แขกเลือกเส้นญ็อกกี สปาเก็ตตี หรือเฟตตูชินี มาคลุกเคล้ากับซอสนดูยา ซีฟู้ด หรือคาร์โบนาราเข้มข้น อีกจุดที่ไม่ควรพลาดคือสเตชันเนื้อที่รวบรวมเนื้อรสเลิศ ทั้งเนื้อย่างเสียบไม้หมุน…

Read More

ค่ำคืนแห่งเสียงดนตรี วัฒนธรรม และมิตรภาพที่ล่องเรือไปกลางเจ้าพระยา ค่ำคืนวันที่ 23 กันยายน 2025 — สายน้ำเจ้าพระยากระทบแสงไฟระยิบระยับจากสะพานพระรามแปด ขณะที่เรือลำหรู “Saffron Cruise” ของโรงแรม Banyan Tree ล่องออกจากท่า River City อย่างสง่างาม เสียงไวโอลินและทรัมเป็ตเริ่มขับขานขึ้นจากดาดฟ้าเรือ บทเพลงจังหวะสนุกแบบเม็กซิกันที่ใครได้ยินก็อดขยับไม่ได้ ทำให้ทุกคนรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่งานกาล่าดินเนอร์ธรรมดา — หากคือค่ำคืนเฉลิมฉลอง “50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและเม็กซิโก” ที่เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และมิตรภาพระหว่างสองโลกที่อยู่คนละซีกฟ้า เมื่อเสียงกีตาร์และไวโอลินบรรจบกับสายน้ำเจ้าพระยา บนเวทีเล็ก ๆ กลางเรือ ปรากฏภาพของกลุ่มศิลปินหญิงในชุดแดงสด ปักดิ้นทองระยับสว่างใต้แสงไฟ พวกเธอคือ “Mariachi Bonitas de Dinorah” — วงมาเรียชิหญิงล้วนที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติจากเม็กซิโก ซิตี้ กลุ่มนักดนตรีหญิงผู้บุกเบิกการนำเสนอศิลปะแบบ Mariachi ด้วยพลัง เสน่ห์ และความสง่างาม เสียงร้องทรงพลังสลับเสียงทรัมเป็ตแผดกังวาน ปนด้วยเสียงไวโอลินที่ขยับจังหวะอย่างร่าเริง เพลง “El Son de la Negra” ดังขึ้นเป็นเพลงเปิด พร้อมเสียงปรบมือจากแขกเหรื่อชาวไทยและชาวต่างชาติที่นั่งอยู่รอบโต๊ะอาหารในบรรยากาศแสงดาวเหนือสายน้ำ มันคือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองที่งดงามและอบอุ่นที่สุดช่วงหนึ่งของปี 50 ปีแห่งสายสัมพันธ์ทางการทูต: จากวัฒนธรรมสู่มิตรภาพ การจัดงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก สถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย (Embajada de México en Tailandia) ร่วมกับ Banyan Tree Bangkok และ Saffron Cruise ซึ่งตั้งใจเนรมิตค่ำคืนนี้ให้เป็นมากกว่า “งานเลี้ยง” — แต่เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่ต่างมีความร่ำรวยทางวัฒนธรรม ประเทศไทยและเม็กซิโกเริ่มสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1975 และตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรม ศิลปะ การศึกษา และอาหารอย่างต่อเนื่อง — เม็กซิโกส่งศิลปิน ดนตรี และภาพยนตร์เข้ามาเผยแพร่ในไทย ในขณะที่อาหารไทยก็ได้รับความนิยมสูงในเม็กซิโกจนมีร้านอาหารไทยเปิดอยู่ทั่วประเทศ การที่ทั้งสองชาติเลือก “อาหารและดนตรี” เป็นหัวใจของการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ จึงถือเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังที่สุดของการสื่อสารแบบไร้พรมแดน Mariachi Bonitas de Dinorah:…

Read More

ภายใต้แสงนวลละมุนของร้าน “เฮยยิน (HEI YIN)” ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของ Gaysorn Village ความเงียบสงบถูกแทนที่ด้วยเสียงกระซิบของจานกระเบื้องและไวน์ที่เอียงรับแสงเทียน นี่คือช่วงเวลาที่ศิลปะแห่งอาหารกวางตุ้งได้รับการตีความใหม่ในชื่อ “HEI YIN Cantonese Refined, A Five-Course Tasting” เมนูห้าคอร์สที่เชฟนำเสนอไม่เพียงเป็นรสชาติ แต่คือ “บทกวีแห่งรสสัมผัส” ที่ร้อยเรียงจากวัตถุดิบระดับพรีเมียม สู่ความละเมียดในทุกองค์ประกอบ — ทั้งกลิ่น สี สัมผัส และอุณหภูมิ 🥢 Amuse-Bouche: สลัดเอ็นหอยจอบและไข่ปลาแซลมอน (Pen Shell Tendon Salad with Salmon Roe) “คำแรกที่พาใจล่องสู่ทะเลกวางตุ้ง” จานแรกเปรียบเสมือนการเปิดม่านของโอเปร่ารสชาติ — เอ็นหอยจอบเนื้อขาวใสถูกลวกจนได้สัมผัสนุ่มหนึบ ราดด้วยซอสซีฟู้ดกวางตุ้งสูตรเปรี้ยวสดชื่นที่มีปลายรสเค็มเผ็ดบางเบา และไข่ปลาแซลมอนจากญี่ปุ่นที่เพิ่มรสเค็มนัวราวเสียงคลื่นแผ่วเบา เชฟวางเนื้อเอ็นหอยจอบเป็นแนวโค้งคล้ายเปลือกหอย เปิดรับแสงที่ตกกระทบด้านข้าง จัดไข่ปลาแซลมอนเรียงเป็นเส้นโค้งเหนือซอสใสในจานสีฟ้าขาวที่ให้ความรู้สึกทะเลอ่อนโยน ด้านข้างแต้มด้วยหยดน้ำมันงาและเกล็ดเกลือทะเล สร้างจุดประกายเหมือนละอองน้ำ กลิ่นซิตรัสของซอสผสมกลิ่นควันเบาๆ จากน้ำมันงา หอมเย็น สดใส รสแรกคือ “ความสะอาด” ที่ค่อยๆ คลี่ตัวเป็นความนัวและหวานจากเอ็นหอย เชฟใช้ “หลักองค์ประกอบวงกลมซ้อน” เพื่อเลียนแบบภาพมุมสูงของทะเล — ขอบส้มทองแทนแสงตะวันตกดิน ส่วนชั้นน้ำแข็งสีฟ้าแทนผิวน้ำที่สะท้อนฟ้า การใช้โทนสีเย็นกับอบอุ่นในจานเดียวกันสร้างความสมดุลทั้งอารมณ์และรสชาติ นี่คือการ “วาดภาพทะเล” ด้วยวัตถุดิบที่กินได้จริง ไวน์แพริ่ง: Anna Spinato Valdobbiadene Prosecco Superiore Brut (Italy) ไวน์ขาวฟองละเอียดจากแคว้นเวเนโตที่มีกลิ่นหอมของลูกแพร์เขียว แอปเปิ้ล และดอกเอลเดอร์เบลนด์ ความเปรี้ยวสดของ Prosecco ช่วยเปิดเพดานปากอย่างนุ่มนวล ฟองที่ละเอียดช่วย “ยก” รสเค็มสดของไข่ปลาแซลมอนและความนัวของซอสให้โปร่งขึ้น เมื่อจิบ Prosecco แล้วตามด้วยคำของเอ็นหอย จะรู้สึกได้ถึงจังหวะรสชาติที่สมดุล — ฟองไวน์ช่วยทำให้ความหนึบของเอ็นหอยเบาและกรอบขึ้น ขณะที่กลิ่นผลไม้ขาวช่วยเสริมกลิ่นเปรี้ยวของซอสซีฟู้ดให้กลมกล่อม เหมือนคลื่นลูกเล็กที่ต่อยอดคลื่นใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ โทนรสโดยรวม: สดใส สะอาด มีพลังแต่ละมุนในปลายรส เหมาะเป็นไวน์เปิดมื้อที่ช่วยขับความสดของอาหารทะเลและเตรียมลิ้นสำหรับคอร์สต่อไปอย่างไร้รอยต่อ 🍗 Appetizer: ปีกไก่ยัดไส้ข้าวเหนียว…

Read More