Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [Review] บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นพรีเมียมกลางกรุงเทพฯ! Soshi เสิร์ฟฟัวกราส์–วากิว–ล็อบสเตอร์ไม่อั้น So/ Bangkok
    • [Review] เปิดประสบการณ์ Buffet ติ่มซำเหนือระดับบนชั้น 59 เมนูใหม่โดยเชฟไซมอน คิน ที่ Bai Yun, Banyan Tree Bangkok พร้อมชมวิวกรุงเทพสุดตระการตา
    • [News] “เฮยยิน” ตอกย้ำความเป็นเลิศ! เสริมทัพสองสุดยอดเชฟระดับมาสเตอร์ ยกระดับประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งและติ่มซำสู่มิติใหม่
    • [Top Review] รวมรีวิวบ๊ะจ่างเลิศรส 4 สไตล์ประจำปี 2025: จากภัตตาคารหรูสู่รสชาติแห่งวัฒนธรรม
    • [Review] รีวิวบะจ่างเจียซิงจาก Pagoda, Marriott Maquis Queen’spark มาพร้อมกล่องของขวัญหรูที่อัดแน่นทั้งรสชาติและสิริมงคล
    • [Review] รีวิวบ๊ะจ่างกังป๋วยสไตล์ฮ่องกง ลูกใหญ่ไซซ์กิโล! ไส้แน่น 12 อย่าง เสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วปลาสูตรต้นตำรับ โดย Hongkong Fisherman
    • [Review] บ๊ะจ่างสูตรดั้งเดิมจาก China Palace, Prince Palace Hotel Bangkok— ความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่นที่ไม่ควรพลาดในเทศกาลบ๊ะจ่าง 2568 ไส้พรีเมียมในราคาจับต้องได้
    • [Review] เปิดห่อบ๊ะจ่าง 3 สไตล์ เชฟกั๊มแห่ง The Silk Road: เป๋าฮื้อ กังป๋วย คุโรบูตะ ครบสูตรหรูรับเทศกาล The Athenee Hotel, A Luxury Collection Bangkok Hotel
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»K Travel&LifeStyle»Hotel Review»Soneva kiri กับ Sustainable design ความ Luxury ที่มาพร้อมกับความรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม นิยามแห่งการพักผ่อนโดยสมบูรณ์แบบ
    Hotel Review

    Soneva kiri กับ Sustainable design ความ Luxury ที่มาพร้อมกับความรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม นิยามแห่งการพักผ่อนโดยสมบูรณ์แบบ

    Kittin AssavavichaiBy Kittin AssavavichaiFebruary 1, 2020Updated:February 4, 2020No Comments4 Mins Read

    ”สถาปัตยกรรมเขตร้อน” ที่ออกแบบสอดคล้องกับสภาพอากาศช่วงเวลาของการท่องเที่ยวหรือการได้ไปพักผ่อนในที่ที่ไม่เคยไป คือการสร้างประสบการณ์ที่ดี ที่จะเติมเต็มให้ชีวิตได้เดินหน้าต่อไปอย่างสมดุล ชีวิตที่ทำงานอย่างเดียวหรือเคร่งเครียดเกินไป ย่อมไม่ค่อยดีอย่างแน่นอน

    Writer : Pol.Capt kittin​ A.​ B.Arch/M.Arch (sustainable design)​/Tree.A

    โดยส่วนตัวแล้วผมกับเพื่อนนั้นต่างแทบไม่มีเวลาไปไหนยาวๆ ดังนั้นพอจะไปไหนทีเราจึงต้องเลือกจุดหมายที่ตอบสนองการพักผ่อนอย่างสูงสุด ทริปนี้ผมรู้สึกว่าคิดถูกจริงๆที่เลือกมาพักผ่อนกับโรงแรมระดับ 6 ดาวนี้ ดินแดนในฝันนี้คือ Soneva Kiri เกาะกูด จังหวัดตราด ซึ่งเป็นเกาะในอ่าวไทยที่มีความงดงามไม่แพ้เกาะทะเลใต้ไหนๆ ที่ได้ชื่อว่าดินแดนในฝันก็เพราะว่าที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงาม ทะเลที่ใส่ไม่แพ้มัลดีฟแต่มีความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศที่สูงมาก และที่สำคัญสำหรับในบทความตอนนี้ สถาปัตยกรรม การตกแต่งที่เอื้อให้เกิดการพักผ่อนที่ดีมากๆนั้นเองครับ

    What & Why: Green Architecture

    ในอดีตความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสภาพแวดล้อม คือ การพยายามปรับตัวเพื่อให้อยู่ร่วมกับสภาพแวดล้อม แต่ปัจจุบันจำนวนประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ต่างคนก็ต่างมีความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ทรัพยากรธรรมชาติมีอยู่ในจำนวนจำกัด มนุษย์บางคนที่ขาดจิตสำนึกจึงไปเบียดเบียนธรรมชาติเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง รวมทั้งความก้าวหน้าทางวัตถุที่ทำให้มนุษย์ไร้จิตสำนึกบางกลุ่มทึกทักกันไปเองว่ามนุษย์คือเจ้าของทรัพยากรและทุกอย่างบนโลกเป็นสมบัติที่มนุษย์เอาไปทำอะไรก็ได้ ผมสะเทือนใจมากตอนที่มีนักข่าวสำนักหนึ่งพูดวลีเช่นนี้ขึ้นมา ความคิดที่คับแคบเช่นนั้นจึงเป็นเหตุให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างทุกวันนี้ ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การเผาผลาญทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งสร้างอากาศเสีย มลพิษ หรือน้ำเสีย เป็นต้น

    คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าแนวทางในการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมนั้น คือการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้มากที่สุด โดยเฉพาะพลังงาน แต่เราจะลดการใช้พลังงานได้อย่างไร ในเมื่อที่อยู่อาศัยและที่ทำงานของเราทุกวันนี้ไม่ได้เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา

    ทางเดินเชื่อมแต่ละอาคารที่ยกสูงกว่า 2.5 เมตร ทำให้แสงและลมพัดผ่านพื้นด้านล่างได้และน้ำสามารถไหลผ่านร่องพื้นลงด้านล่างได้

    หากอากาศร้อนก็ต้องเปิดแอร์ ห้องไม่สว่างก็ต้องเปิดไฟ อยากชมวิวก็ทำผนังกระจกไปแบบไม่ดูทิศดูทางสุดท้ายอาคารกลายเป็นตัวสะสมความร้อน ร้อนยิ่งกว่าข้างนอกก็ต้องจบที่เร่งการทำงานระบบปรับอากาศ เราแทบจะไม่สามารถลดการใช้พลังงานได้เลย

    หากไม่มีการปรับเปลี่ยนอาคารที่อยู่อาศัย ให้เหมาะกับการใช้ชีวิตและประหยัดพลังงาน เราจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ จึงนำมาสู่แนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรม ให้คนสามารถอยู่ได้โดยใช้พลังงานน้อยที่สุด หลักการออกแบบนี้ คือ สถาปัตยกรรมสีเขียว (Green Architecture) และ สถาปัตยกรรมแบบยั่งยืน (Sustainable Architecture) นั้นเองครับ

    อาคาร ทางเดินที่วางตัวตามแนวลาดชันของภูมิประเทศเดิมโดยไม่ไปปรับความลาดชันเพื่อรักษาระบบนิเวศเดิมอีกทั้งร่องไม้ยังปล่อยให้น้ำสามารถไหลผ่านลงสู่ชั้นดินได้ ลดปัญหาการทรุดตัวของชั้นดินในอนาคต

    สำหรับประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้นแทบตลอดทั้งปี แนวคิดงานออกแบบสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับสภาพอากาศบ้านเรานั้นถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้ผู้อยู่อาศัยแต่ละพื้นที่อยู่ได้แบบสบายๆ โดยเฉพาะหน้าร้อนที่อากาศอบอ้าวแล้ว ยังมีผลต่อในทุกฤดูกาลและดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

    Soneva Kiri

    คุณลองคิดดูว่าถ้าใส่สูทไปทะเลคงไม่สบายเนื้อสบายตัวแน่ อาคารและการออกแบบสถาปัตยกรรมก็เช่นกันครับ ซึ่ง “Tropical Architecture” ก็ถือเป็นผลงานออกแบบสำหรับผู้อยู่อาศัยในเขตร้อน รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย วันนี้ Kinlakestars.com จึงขอพาทุกท่านไปชม Pool Villa สไตล์ Tropical ที่เป็น Luxury Botique Resort อย่าง Soneva มาให้ชมกัน

    Design Part

    อย่างแรกที่เราต้องเข้าใจเลยนั่นคือที่ตั้งของโรงแรม ภูมิประเทศจุดที่ตั้งมีลักษณะเป็นเนินเขาหินปูนและมีต้นไม้แบบป่าร้อนชื้นปกคลุม ซึ่งมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพที่สูงมาก การที่เราจะเปลี่ยนหน้าดินเดิมเป็นพื้นปูนย่อมเป็นเรื่องน่าเสียดาย อีกทั้งด้วยความลาดเอียงไปมาไม่ใช่พื้นราบหากจะปรับพื้นย่อมกระทบต่อระบบนิเวศทั้งการไหลของน้ำและพืชพรรณเดิมอีกทั้งชั้นดิน ซึ่งก็จะส่งผลต่อสัตว์ต่างๆในระบบนิเวศตามไปด้วย 

    Landscape

    พื้นที่ใช้งานเรียงตัวตามความลาดเอียงของภูมิประเทศเดิม เพื่อการรักษาสภาพแวดล้อมและลดการกระทบกระเทือนระบบนิเวศเดิม แต่ก็ได้ความสวยงามและฟังก์ชั่นการใช้งานดีไปอีกแบบ จากภาพจะเห็นว่าเราสามารถชมทัศนียภาพทะเลได้จากทุกโต๊ะโดยไม่บดบังกันผ่านการไต่ระดับของพื้นที่ใช้งาน
    ทางเดินที่ทำจากไม้ซึ่งลัดเลาะไปตามความลาดเอียงของภูมิประเทศเดิม

    ผู้ออกแบบจึงคิดอย่างครบวงจรตั้งแต่การวางผังโครงการทั้งหมดให้อาคารต่างๆเกาะไปตามความลาดเอียง อีกทั้งเชื่อมต่อแต่ละอาคารด้วยถนนเล็กๆที่ใช้การเดิน หรือรถบักกี้คันเล็กๆซึ่งเป็นการรบกวนสภาพแวดล้อมเดิมให้น้อยที่สุดและไม่สร้างมลพิษ อีกทั้งทางสัญจรทั้งหมดที่เชื่อมต่อกันก็จะคดเคี้ยวและขึ้นลงไปตามความลาดเอียงเดิมแทบทั้งสิ้น

    หมู่อาคาร ลานพื้น และทางเดินที่วางตัวไปตามความลาดเอียงของภูมิประเทศเดิมเป็นโครงสร้างไม้ยกสูงขึ้นมา ให้น้ำซึมลงดินเดิมได้และไม่ใช่พื้นดาดแข็ง

    ต่อมาที่เราจะพูดถึงกันคือทางสัญจรครับ ทางเดินไม้ยาวคดเคี้ยวไปมาที่ยกตัวสูงขึ้นมาจากพื้นดินเดิม ลอยตัวอยู่ด้วยเสาไม้นั้น นอกจากจะทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติและเหมือนได้ผจญภัยในป่าแล้วนั้น สิ่งสำคัญคือไม่เป็นการปิดหน้าดินเดิม ด้วยระยะที่ยกสูงกว่า 2 เมตรในทุกจุดทำให้พื้นที่ใต้ทางเดิน ดินยังรับน้ำให้ไหลซึมลงชั้นดินเดิม ปัญหาการทรุดตัวของดินไม่ใช่แค่การสูบน้ำขึ้นมาใช้แต่เป็นการที่น้ำไม่สามารถซึมกลับลงชั้นดินด้วย การปล่อยให้หน้าดินเป็นดินเดิมนอกจากน้ำจะซึมลงได้นั้น ยังช่วยให้ดินสามารถระบายคายความร้อนออกในเวลากลางคืน และสะสมความร้อนในช่วงกลางวัน อีกทั้งพืชพรรณต่างๆสามารถขึ้นได้ สัตว์ในระบบนิเวศเดินก็ยังอยู่ต่อไปได้อีกด้วย

    ทางเดินที่ทำจากไม้ซึ่งลัดเลาะไปตามความลาดเอียงของภูมิประเทศเดิม จากภาพเป็นทางขึ้นไปยัง Villa No.53

    มาสร้าง “สภาวะน่าสบาย” ผ่านการลดและปรับ “พื้นที่ดาดแข็ง”

    หลายคนอาจไม่คุ้นนักกับคำว่า “พื้นที่ดาดแข็ง” แต่ถ้าบอกว่าคือ พื้นที่บริเวณรอบๆ อาคารที่มีลักษณะแข็ง ซึ่งเรามักออกแบบให้เป็นทั้งที่จอดรถ ทางเดินเท้า หรือลานที่ใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นอีกหน่อยว่าคือ พื้นลาดยาง พื้นอิฐ พื้นคอนกรีต พื้นหิน หรือพื้นไม้ คนทุกคนย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดี

    พื้นทางเดินทั้งโครงการสำหรับเดินกว่า80% ไม่รวมถนนเล็กๆสำหรับรถไฟฟ้าจะเป็นพื้นไม้ที่มีร่องให้น้ำซึงลงและยกสูงไม่ใช่พื้นดาดแข็ง

    แล้วอะไรคือปัญหา ? หากบ้านสักหลังมีบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วย — พื้นที่ดาดแข็ง

    หากมี “พื้นที่ดาดแข็ง” อยู่ในบริเวณรอบๆ บ้านเป็นปริมาณมาก คุณสมบัติของวัสดุนั้นๆ จะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มสูงขึ้น แสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องจ้าเข้ามาก็จะแยงตาโดยตรง และเสียงสะท้อนจากกิจกรรมต่างๆ ก็จะตรงสู่อาคารมากเป็นพิเศษ

    พื้นทางเดินทั้งโครงการสำหรับเดินกว่า80% ไม่รวมถนนเล็กๆสำหรับรถไฟฟ้าจะเป็นพื้นไม้ที่มีร่องให้น้ำซึงลงและยกสูงไม่ใช่พื้นดาดแข็ง

    นึกภาพ “บ้าน” ที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ๆ สักต้นให้ร่มเงา ซอกมุมซ้ายขวาก็ไม่มีกระถางต้นไม้น้อย-ใหญ่ตั้งอยู่ และเจ้าของบ้านก็เลือกที่จะเปลี่ยนบริเวณรอบๆ โดยส่วนใหญ่เป็น “พื้นที่ดาดแข็ง” แบบต่างๆ เพื่อการใช้สอยที่สะดวกยิ่งขึ้น   หากเป็นเวลากลางคืน แสงอาทิตย์ที่หมดไปและความเงียบสงบที่มาเยือน ก็คงไม่สร้างปัญหาอะไรมากนัก หากแต่ในเวลากลางวัน ผู้อยู่อาศัยย่อมรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวไปกับบรรยากาศโดยรอบของบ้าน

    ห้องอาบน้ำที่ไม่ได้สร้างติดลงไปที่พื้นดินแต่ยกสูงขึ้นมาจากดินเดิมกว่า 2 เมตร ทำให้หน้าดินเดิมน้ำยังซึมผ่านลงชั้นดินเดิม อีกทั้งพืชพรรรยังขึ้นได้

    “พื้นที่ดาดแข็ง” ที่สร้างผลกระทบต่อ “สภาวะน่าสบายด้านความร้อน” เกิดขึ้นจากการที่วัสดุมี “ค่าสะท้อนความร้อน” ในระดับต่ำ – ปานกลาง “ค่าดูดกลืนความร้อน” และ “ค่าแผ่ความร้อน” ในระดับสูง จนพื้นที่นั้นกลายเป็นแหล่งสะสมความร้อน  และเมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณโดยรอบที่เป็น “พื้นสีเขียว” จะพบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยตัวเลขการเปรียบเทียบ “อุณหภูมิพื้นผิว” ของพื้นคอนกรีต บล็อคคอนกรีตปูหญ้า บล็อคพลาสติกปูหญ้า และสนามหญ้า จะมากถึง 42, 36, 30 และ 27 องศาเซลเซียสตามลำดับ

    อาคารที่ไม่สร้างพื้นดาดแข็งเลยเพราะยกขึ้นสูงจากดินเดิมและปล่อยให้ดินเดิมยังคงสภาพเดิม น้ำซึมผ่านและพืชพรรณขึ้นได้

    Architectural Design

    ทีนี้เรามาดูกันที่ตัวอาคารและสถาปัตยกรรมกันต่อเลยดีกว่าครับ เริ่มต้นจากการที่เจ้าของ Soneva เป็นผู้หลงใหลในธรรมชาติและชื่นชอบต้นไม้เป็นอย่างยิ่ง จึงมีแนวคิดที่ต้องการให้บ้านเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ แสงแดดและสายลมพัดผ่านเข้ามาได้เกือบทุกมุม ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็สามารถสัมผัสได้ถึงสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา สามารถมองเห็นพืชพรรณและธรรมชาติอันสมบูรณ์ของเกาะกูด อีกทั้งเลือกใช้วัสดุที่นำมาจากธรรมชาติ ถือว่าเป็นการสร้างความกลมกลืนระหว่างบ้านและธรรมชาติได้อย่างแนบเนียน

    ผนังห้องอาบน้ำที่ไม่ต้องเปิดไฟทั้งในตอนกลางวันและกลางคืนเพราะด้วยทำจากบล๊อคแก้วที่แสงเข้ามาได้รอบด้าน
    ลานอาบน้ำกลางแจ้ง สำหรับการอาบน้ำ outdoor ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอาบน้ำกลางป่า ส่วนตัวด้วยรั้วไม้ไผ่ 2 ชั้นอีกทั้งด้านบนต้นไม้ใหญ่ยังปกคลุม

    การพิจารณาที่ตั้งของอาคาร ทิศทางแดด ลม ฝน ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงมุมมองรอบข้างที่มีผลต่อการเปิดช่องเปิด และการออกแบบจัดวางพื้นที่การใช้งานของอาคารในแทบทุกหลัง หมู่อาคารทั้งหมดจะมีพื้นที่ว่างระหว่างกันทำให้ไม่บังทิศทางลม  ตัวหน้าวิลล่าหลังที่เราพักและหลังอื่นๆที่เราได้ขอเข้าชมหันหน้าเข้าไปที่ทะเลทั้งหมด ทำให้นอกจากจะชมทัศนียภาพทะเลได้ทั้งหมดยังเปิดรับลมทะเลเข้ามาได้อย่างดี 

    ทิศทางลมในช่วงเดือนพฤษจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ *ทิศทางลมที่ไหลผ่านหมู่อาคารที่พัก Sunset Poon villa No.53
    ทิศทางลมในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม *ทิศทางลมที่ไหลผ่านหมู่อาคารที่พัก Sunset Poon villa No.53

    โดยสถาปนิกมีการออกแบบที่พิเศษมากสำหรับในส่วนของวิลล่าทุกหลัง คือการคงต้นไม้ใหญ่เดิมที่มีไว้บริเวณกลางหมู่อาคาร 4 ต้นขึ้นไปตามขนาด แบบวิลล่า เพื่อกรองแสงแดดที่จะเข้าสู่ตัวอาคารในช่วงเวลากลางวันและบ่ายแก่ๆ

    การสร้างหมู่อาคารผสมผสานเข้าไปกับต้นไม้ที่มีอยู่เดิมโดยรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ถอนออกไม่กระทบสิ่งแวดล้อมเดิมและช่วยให้ร่มเงาแก่พื้นที่ใช้งาน

    ซึ่งแสงแดดจะเฉียงมากและยังรักษาสภาพแวดล้อมเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี โดยตรงพื้นจะเจาะช่องเว้นให้ต้นไม้ รอบๆก็เป็นพื้นยกใต้ถุนสูงขึ้นมาและใต้พื้นก็เว้นเป็นหน้าดินเดิมให้น้ำซึมลงชั้นดินได้

    *พื้นที่อาบน้ำแต่งตัวหลังอาคารห้องนอนในหมู่อาคารที่พัก Sunset Poon villa No.53
    *สภาพใต้ถุนยกสูงของหมู่อาคารที่พัก Sunset Poon villa No.53
    *ช่องให้ต้นไม้ขึ้นในหมู่อาคารที่พัก Villa No.42

    พื้นที่ภายในบ้านมีลักษณะก้ำกึ่งระหว่าง indoor และ outdoor มีเลเยอร์ของระเบียงและ façade สำหรับบังแดดและกันฝน ตัวประตูและหน้าต่างรอบอาคารส่วนที่เป็นพื้นที่สำหรับนอน นั่งเล่นและทำงาน จากพื้นจนถึงคานเป็นผนังที่เปิดโล่งได้หมดจนเหลือแต่เสาด้วยประตูกระจกบานเฟี้ยมมีวงกบและบานกรอบเป็นไม้ที่ให้ความรู้สีกธรรมชาติมาก

    วัสดุที่ใช้เป็นไม้ทั้งหมดยกเว้นในส่วนของสุขถัณฑ์
    โรงจอดรถที่ทำจากโครงสร้างไม้ไผ่โดยไม้ไผ่ที่ใช้เป็นไม้ไผ่ที่ผ่านการต้มและอบมาทำให้ปลอดแมลง เป็นวัสดุเบา ไม่ต้องใช้การขนส่งไกล และเป็นพืชโตเร็วปลูกทดแทนได้ เป็นวัสดุทดแทนและใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำ

    แตกต่างจากวงกบบานกรอบอลูมิเนียมโดยสิ้นเชิง หากเราอยากจะสัมผัสกับธรรมชาติจริงๆก็เปิดได้หมดทั้ง 3 ด้าน โดยไม่ต้องใช้ระบบปรับอากาศก็จะสัมผัสกับลมทะเล กลิ่นอายธรรมชาติ เสียงคลื่นเสียงแมลง และไม่ต้องกลัวแมลงขณะนอนเพราะตรงเตียงมีมุ้งล้อมรอบ  องค์ประกอบต่างๆที่กล่าวมาจึงทำให้รู้สึกว่าตัวบ้านมีกลิ่นอายความเป็นทรอปิคอล ในเรื่องการออกแบบที่สอดคล้องกับสภาพอากาศ 

    อาคารสามารถเปิดเป็น semi-indoor ได้รอบด้านด้วยบานเพี้ยม พร้อมมุ้งคลุมเตียงให้นอนได้อย่างสบายใจไร้แมลงหากอยากลองสัมผัสอากาศธรรมชาติ
    วัสดุฝ้าเพดานเป็นไม้ไผ่ที่ผ่านการต้มและอบมาทำให้ปลอดแมลง เป็นวัสดุเบา ไม่ต้องใช้การขนส่งไกล และเป็นพืชโตเร็วปลูกทดแทนได้ เป็นวัสดุทดแทนและใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำ

    จะเห็นได้จากวัสดุที่เป็นไม้ และการออกแบบชายคายื่น เพื่อบังแดดและระบายอากาศ อย่างแผงไม้ด้านหน้าและด้านข้างของอาคาร โดยสถาปนิกได้กำหนดองศาการยกขึ้นลงของแต่ละบานไว้จากการคำนวณมาเป็นอย่างดี และมี Facade ระแนงไม้ที่เป็น Double Skin อยู่ด้านนอกและด้านในเป็นกระจก เช่นในส่วนอาคารแต่งตัว ห้องน้ำตามรูปประกอบ ช่วยกรองแสงแดดและความร้อนเข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัยอีกด้วย

    ภายในอาคารนอน แสงสามารถเข้าผ่านได้แต่เป็นแสง Indirect ทำให้ความร้อนไม่เข้ามามากและไม่เกิด glare sensitivity เพราะชายคารอบอาคาร
    การทิ้งตัวของชายคารอบอาคารที่ช่วยลดความร้อนและกัน direct light ด้วยองศาของปลายหลังคา
    การทิ้งตัวของชายคารอบอาคารที่ช่วยลดความร้อนและกัน direct light ด้วยองศาของปลายหลังคา

    เรื่องของการยื่นยาวเกินออกมาจากแนวเส้นโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นพื้น ชายคา จันทัน ทำให้เกิดมิติของอาคารที่มีหน้าที่ช่วยบังแดดฝน อีกนัยหนึ่งยังช่วยให้อาคารดูเบาลอย บวกกับความบางของเส้นโครงสร้างไม้และไม้ไผ่ ทำให้สถาปัตยกรรมชิ้นนี้โปร่งเบาโดยไม่ต้องสงสัย

    ผนังไม้ฝาปะกน เป็นวัสดุทดแทนและใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำ
    *ฝาปะกน (carved-wooden partition ) คือ  ฝาผนังของเรือนเครื่องสับแบบไทยภาคกลาง ซึ่งประกอบด้วยไม้หลายชิ้น  มีไม้ลูกตั้ง   ลูกนอน และแผ่นไม้บางเข้าลิ้นประกบกันสนิท 

    นอกจากนี้ผู้ออกแบบยังตั้งใจออกแบบวัสดุให้ไม่เหลือเศษในการก่อสร้าง แม้แต่กิ่งของต้นสนหรือกิ่งไม้ที่เหลือจากการตัดเอาส่วนลำต้นมาทำส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็นเสา พื้น คาน ผนังแล้ว สถาปนิกยังนำกิ่งที่คดโค้งเองไปมามาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดเช่นการนำมาทำเป็นมือจับประตูเป็นต้น

    มือจับประตูเป็นต้นนำมาทำเป็นกิ่งของต้นสนหรือกิ่งไม้ที่เหลือจากการตัดเอาส่วนลำต้นมาทำส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็นเสา พื้น คาน ผนัง
    มือจับประตูเป็นต้นนำมาทำเป็นกิ่งของต้นสนหรือกิ่งไม้ที่เหลือจากการตัดเอาส่วนลำต้นมาทำส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็นเสา พื้น คาน ผนัง

    มาถึงอาคารส่วนกลาง สถาปัตยกรรม Tropical หลังที่เป็นห้องอาหาร บาร์ต่างๆ หรือส่วนของพื้นที่นั่งเล่นส่วนกินไอศกรีมและช็อคโกแลต และสปานี้ “โล่ง โปร่ง สบาย” ด้วยการออกแบบผ่านความตั้งใจและดีเทลมากมายที่ต้องผ่านการคิดมาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยมีการใช้วัสดุและโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างเหล็กที่เป็นส่วนประกอบในการยึดและไม้ที่เป็นโครงสร้างหลัก

    การใช้วัสดุและโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างเหล็กที่เป็นส่วนประกอบในการยึดและไม้ที่เป็นโครงสร้างหลัก
    โครงสร้างหลังคาผ้าใบแบบผสมผสาน การใช้วัสดุและโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างเหล็กที่เป็นส่วนประกอบในการยึดและไม้ที่เป็นโครงสร้างหลัก
    โครงสร้างหลังคาผ้าใบแบบผสมผสาน การใช้วัสดุและโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างเหล็กที่เป็นส่วนประกอบในการยึดและไม้ที่เป็นโครงสร้างหลัก
    การใช้วัสดุและโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างเหล็กที่เป็นส่วนประกอบในการยึดและไม้ที่เป็นโครงสร้างหลัก
    โครงสร้างหลังคาผ้าใบแบบผสมผสาน การใช้วัสดุและโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างเหล็กที่เป็นส่วนประกอบในการยึดและไม้ที่เป็นโครงสร้างหลัก
    โครงสร้างหลังคาผ้าใบแบบผสมผสาน การใช้วัสดุและโครงสร้างที่เรียบง่ายอย่างเหล็กที่เป็นส่วนประกอบในการยึดและไม้ที่เป็นโครงสร้างหลัก
    การเว้นร่องในห้องน้ำ เพื่อไม่ให้เสาไม้ต้องสัมผัสน้ำตลอดจนเปื่อย

    ผสมผสานกับการออกแบบแบบสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น เช่น การยกอาคารขึ้นสูง เพื่อให้มีพื้นที่ใต้ถุนช่วยให้ลมพัดผ่าน และระบายอากาศได้ดี การใช้ผนังไม้และไม้ไผ่สีอ่อนที่ไม่สะสมความร้อนและระบายความร้อนออกได้อย่างดีและรวดเร็ว ผนังหลายๆส่วนที่ไม่ได้เป็นพื้นที่ปรับอากาศก็เว้นเป็นช่องว่างไว้และมีเพดานที่สูง ทำให้มวลความร้อนลอยตัวขึ้นตามหลักฟิสิกส์และไหลออกจากตัวอาคารได้ตามธรรมชาติ

    วัสดุในโครงสร้างอาคารเป็นไม้เกือบทั้งหมด เป็นวัสดุทดแทนและใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำ ยกเว้นกระจก

    ใช้ไม้ปลูกที่โตเร็ว = Low Carbon Footprint ?

    คาร์บอน ฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) คืออะไร ?  มันก์คือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วย ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เริ่มต้นตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การประกอบชิ้นส่วน การใช้งาน จนกระทั่งถึงการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังการใช้งาน โดยทำการคำนวณออกมาในรูปของคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่าต่อหน่วยผลิตภัณฑ์

    โครงสร้างอาคารเด็กเล่นจากไม้ไผ่ทั้งหลัง ! ไม้ไผ่ที่ใช้เป็นไม้ไผ่ที่ผ่านการต้มและอบมาทำให้ปลอดแมลง เป็นวัสดุเบา ไม่ต้องใช้การขนส่งไกล และเป็นพืชโตเร็วปลูกทดแทนได้ เป็นวัสดุทดแทนและใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำ
    เพดานอาคารจะเห็นส่วนของคานไม้ การเข้าลิ้นและสลักไม้ อีกทั้งแม้แต่ช่องลมปรับอากาศยังใช้ไม้ไผ่
    อาคารที่ประกอบและสร้างจากไม้ตั้งแต่พื้น เสา คาน และผนังทั้งหมด โดยใช้ไม้หลากหลายชนิดที่เหมาะสมกับแต่ละองค์ประกอบ
    อาคารที่ประกอบและสร้างจากไม้ตั้งแต่พื้น เสา คาน และผนังทั้งหมด

    ซึ่งไม้ที่ผ่านการรับรองมาตารฐานว่าเป็นไม้ที่มาจากการปลูกเพื่อใช้ทำวัสดุก่อสร้างนั้นถือเป็น Low Carbon Footprint เพราะนอกจากจะช่วยลด Carbon ในระหว่างที่ยังเป็นต้นไม้ ยังใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำกว่าคอนกรีตและเหล็ก น้ำหนักเบาขนส่งสะดวก และย่อยสลายได้ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมแถมยังใช้พลังงานในการย่อยสลายแปรสภาพกลับมาใช้ใหม่ต่ำเช่นกัน

    วัสดุฝ้าเพดานเป็นไม้ไผ่ที่ผ่านการต้มและอบมาทำให้ปลอดแมลง เป็นวัสดุเบา ไม่ต้องใช้การขนส่งไกล และเป็นพืชโตเร็วปลูกทดแทนได้ เป็นวัสดุทดแทนและใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำ

    สถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้นมีลักษณะเด่นด้านการใช้วัสดุธรรมชาติที่ปลูกขึ้นทดแทนได้หรือวัสดุท้องถิ่น วัสดุที่ใช้พลังงานในการแปรรูปต่ำและสร้างคาร์บอนฟุทปริ้นต่ำ การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายในการพักอาศัย ด้วยการใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายธรรมชาติที่กลมกลืน และผ่อนคลาย จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในปัจจุบันสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้น ที่ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

    ดังนั้น Soneva Kiri จึงเป็นหนึ่งในสุดยอดตัวอย่างการออกแบบ Sustainable Tropical Architecture Design ครับ ควรค่าแก่การมาครั้งหนึ่งในชีวิต

    และพบกับสุดยอดเนื้อหาพานำชม Soneva Kiri ในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร Ep.2 ได้เร็วๆนี้ที่ Kinlakestars.com ทั้ง Website facebook Instagram และ youtube ครับ

    Story / Photo : Pol.Capt. Kittin A.

    kinlakestars.com

    รีวิว, เกาะกูด, ที่พัก, luxury, hotel review, Soneva kiri, private plane, pool villa, treepod, สถาปัตยกรรมยั่งยืน, sustainable design, luxury


    KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว

    รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    hotel review luxury pool villa private plane Soneva kiri sustainable design treepod ที่พัก รีวิว สถาปัตยกรรมยั่งยืน เกาะกูด
    Previous Articleฉลองเทศกาลแห่งความรัก ณ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ “Love is in the air” Banyan Tree Bangkok VALENTINE promotion 2020
    Next Article โรงแรมลอยน้ำริมทะเลจะเปิดตัวที่กาตาร์ ประเทศกลางทะเลทรายแห่งอาหรับในไม่ช้า / Qatar Floating Hotels

    Related Posts

    [Review] เปิดประสบการณ์ Buffet ติ่มซำเหนือระดับบนชั้น 59 เมนูใหม่โดยเชฟไซมอน คิน ที่ Bai Yun, Banyan Tree Bangkok พร้อมชมวิวกรุงเทพสุดตระการตา

    June 1, 2025

    [Review] เปิดห่อบ๊ะจ่าง 3 สไตล์ เชฟกั๊มแห่ง The Silk Road: เป๋าฮื้อ กังป๋วย คุโรบูตะ ครบสูตรหรูรับเทศกาล The Athenee Hotel, A Luxury Collection Bangkok Hotel

    May 17, 2025

    [Review] ย้อนเวลาไปนั่งเรือกินข้าวแช่สูตรโบราณ ณ คฤหาสน์ริมน้ำ 102 ปี ‘Praya Palazzo’ เสิร์ฟครบเซ็ตตำรับชาววัง

    May 12, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [Review] บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นพรีเมียมกลางกรุงเทพฯ! Soshi เสิร์ฟฟัวกราส์–วากิว–ล็อบสเตอร์ไม่อั้น So/ Bangkok

    June 7, 2025

    [Review] เปิดประสบการณ์ Buffet ติ่มซำเหนือระดับบนชั้น 59 เมนูใหม่โดยเชฟไซมอน คิน ที่ Bai Yun, Banyan Tree Bangkok พร้อมชมวิวกรุงเทพสุดตระการตา

    June 1, 2025

    [News] “เฮยยิน” ตอกย้ำความเป็นเลิศ! เสริมทัพสองสุดยอดเชฟระดับมาสเตอร์ ยกระดับประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งและติ่มซำสู่มิติใหม่

    May 23, 2025

    [Top Review] รวมรีวิวบ๊ะจ่างเลิศรส 4 สไตล์ประจำปี 2025: จากภัตตาคารหรูสู่รสชาติแห่งวัฒนธรรม

    May 20, 2025

    [Review] รีวิวบะจ่างเจียซิงจาก Pagoda, Marriott Maquis Queen’spark มาพร้อมกล่องของขวัญหรูที่อัดแน่นทั้งรสชาติและสิริมงคล

    May 20, 2025

    [Review] บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นพรีเมียมกลางกรุงเทพฯ! Soshi เสิร์ฟฟัวกราส์–วากิว–ล็อบสเตอร์ไม่อั้น So/ Bangkok

    June 7, 2025

    [Review] เปิดประสบการณ์ Buffet ติ่มซำเหนือระดับบนชั้น 59 เมนูใหม่โดยเชฟไซมอน คิน ที่ Bai Yun, Banyan Tree Bangkok พร้อมชมวิวกรุงเทพสุดตระการตา

    June 1, 2025

    [News] “เฮยยิน” ตอกย้ำความเป็นเลิศ! เสริมทัพสองสุดยอดเชฟระดับมาสเตอร์ ยกระดับประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งและติ่มซำสู่มิติใหม่

    May 23, 2025

    [Top Review] รวมรีวิวบ๊ะจ่างเลิศรส 4 สไตล์ประจำปี 2025: จากภัตตาคารหรูสู่รสชาติแห่งวัฒนธรรม

    May 20, 2025

    [Review] รีวิวบะจ่างเจียซิงจาก Pagoda, Marriott Maquis Queen’spark มาพร้อมกล่องของขวัญหรูที่อัดแน่นทั้งรสชาติและสิริมงคล

    May 20, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...