อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มท้อง เลิศรสเพลินลิ้น กับ เมนูอาหารเจ ที่ไม่จำเจ สไตล์ฮ่องกง ที่ ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน

ตอนนี้ก็เข้าช่วงเทศกาลกินเจแล้ว วันนี้ก็เลยจะขอแนะนำร้านอาหารอีกหนึ่งร้าน ที่ได้ทำเมนูพิเศษสำหรับเทศกาลกินเจแบบนี้ ร้านนี้เป็นร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกง นั่นก็คือ ร้านอาหาร ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน นั่นเอง ตั้งอยู่ในเมืองทองธานี ติดกับอิมแพคฮอลล์ 8

โปรโมชั่นต่างๆ ของทางร้าน นอกจาก เจ ก็มีนะครับ

เข้ามาดูบรรยากาศภายในร้านกันบ้าง โดยคอนเซปของที่นี่ จะเป็นเหมือนเราได้ทานอาหารอยู่บนเรือ พื้นเป็นสีน้ำเงิน และ รูปทรงของโต๊ะมีลักษณะคล้ายเรือ

เชฟ ชาน ยิ้ว แลม เชฟฮ่องกง ผู้มีประสบการณ์การทำงานอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะที่ฮ่องกงเอง ในไทย เชฟก็ผ่านงานโรงแรมระดับห้าดาวในกรุงเทพฯ มาหลายแห่งเลนทีเดียว อาทิเช่น โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมฮิลตัน เป็นต้น

จริงๆ ตัวผมเอง ก็เคยมาทานที่นี่ก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง เป็นเมนูปกตินะครับ ต้องบอกเลยว่า นอกจากวัตถุดิบที่สดใหม่แล้ว เรื่องรสชาติก็ไม่แพ้วัตถุดิบเลย เพราะงั้นวันนี้ก็ขอลองมาชิมอาหารเจดูบ้าง ว่าจะเป็นอย่างไร สำหรับฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ปีนี้ เป็นปีที่ 13 แล้ว ที่ได้ทำ เมนูอาหารเจ ออกมาในช่วงเทศกาลฯ ซึ่งสำหรับปีนี้ จะเป็นเมนูอะลาคาร์ท คือ สั่งได้เป็นเมนูๆไปได้เลย โดยจะมีอาหารเจ 11 อย่าง และมี ติ่มซำอีก 9 อย่าง บนโต๊ะนี้ จะเป็นอาหารเจทั้ง 11 อย่าง ครับ

เริ่มกันเบาๆ ก่อนแล้วกัน เป็น  ซุปข้าวโพด เห็ดหอม และ เห็ดเข็มทอง ( 200++ บาท )

ตามชื่อเมนูเลยนะครับ ก็จะมีข้าวโพด เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง เต้าหู้อ่อน รสชาติตัวซุปกลมกล่อม รสชาติจะออกเป็นเหมือนพวกซุปน้ำแดง มีกลิ่นหอมของเห็ดหอมอ่อนๆ สัมผัสของซุปจะไม่ใสทีเดียว จะมีความข้นเล็กน้อย น้ำสต๊อกที่เขาใช้ เขาบอกว่า ได้จากการเคี่ยวผักต่างๆ กว่า 3 ชั่วโมง เลยทีเดียวครับ

ต่อมาเป็นพวกของทอด ของทานเล่นนะครับ เริ่มจาก เผือกทอดเจ ( 250++ บาท )

เขาทอดออกมาได้ฟู น่าทานมากๆ หน้าตาก็เหมือนเผือกทอดที่ไม่ใช่เจเลย

ลองผ่าดูข้างใน ไส้ข้างในก็จะเป็นเผือกบดนุ่มๆ หมูแดงเจ เห็ดหอม พริกหวาน ผิวด้านนอกทำได้ดีเลยครับ กรอบฟู ทั้งๆที่ตั้งไว้นาน ก็ยังคงความกรอบ ส่วนไส้รสชาติกำลังดี ไม่จัดไป ทานกับน้ำจิ้มบ๊วย

ต่อมา เปาะเปี๊ยะทอดเจ ( 250++ บาท )

ผิวข้างนอกกรอบๆ เวลาเคี้ยวจะสัมผัสได้ถึงสัมผัสของ เห็ด โปรตีนเกษตร นอกจากนี้ก็จะมีพวกผักด้วยครับ

หมิ่นกั๊นซอสเจ ( 350++ บาท )   เขานำหมี่กึงไปเจี๋ยน แล้วเสิร์ฟมาพร้อมกับเห็ดหอม และ บล๊อคโคลี่

หมี่กึง มีสัมผัสเหนียวนุ่มมากๆ ให้ความรู้สึกเหมือนทานฟองเต้าหู้ ส่วนตัวคิดว่าตัวหมี่กึงรสชาติค่อนข้างจืดไปหน่อยนะครับ ส่วนบล๊อคโคลี่ และ เห็ดหอม ก็สุกกำลังดี

เยื่อไผ่ และ คะน้าฮ่องกงซอสเจ ( 380++ บาท )

ผักคะน้าฮ่องกงต้นใหญ่มากๆ มีความสดกรอบ เสิร์ฟเยื่อไผ่ และ แครอทไว้ด้านบน จานนี้ก็ยังคงรสชาติเค็มอ่อนๆ ครับ

สาหร่ายปลาเจทอดเสฉวน ( 300++ บาท ) ตัวชิ้นปลา เชฟได้ทำเองเลยครับ คือ รสชาติจะคล้ายๆ พวกแฮมเจที่เคยทาน มีรสชาติจะออกเค็มๆ หน่อย

สำหรับจานนี้ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเป็นเสฉวน ความเผ็ดร้อนน่าจะมีมากกว่านี้อีกหน่อยอะครับ แต่รสชาติของตัวปลาค่อนข้างกลมกล่อมดีแล้ว

ผัดโหงวก๊วยไก่เจซอสน้ำผึ้ง ( 350++ บาท )

จานนี้ก็เหมือนกับ ผัดโหงวก๊วยเลยครับ เครื่องมาเต็มมาก ไม่ว่าจะเป็น พริกหวาน เกาลัค เห็ดหอม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แปะก๊วย สำหรับไก่เจ จะคล้ายๆ กับปลา แต่ต่างกันตรงที่มีเนื้อที่แน่นกว่าเล็กน้อย ซอสที่ผัดมามีรสชาติที่กลมกล่อมดี ติดที่ว่าใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมด้วย สำหรับคนที่เคร่ง จานนี้ก็อาจจะไม่สามารถทานได้ครับ แต่ถ้าไม่เคร่งก็ถือว่า เป็นอีกจานที่รสชาติไม่เลวเลยครับ

เต้าหู้ทอดกรอบซอสสามรส ( 250++ บาท )

สำหรับจานนี้ รสชาติจะค่อนข้างแปลกแหวกแนวไปจากจานอื่นๆ ทีเดียว เนื่องจากรสชาติที่จัดจ้าน แต่ถึงจะแหวกแนว แต่รสชาตินี่อร่อยมากๆ เลยครับ คือ น้ำซอสที่ปรุงมาอย่างครบรส โดยเปรี้ยวจะนำรสหวาน รสเค็ม มาเล็กน้อย และ ทิ้งท้ายด้วยรสเผ็ดร้อนนิดๆ เป็นรสชาติที่ลงตัวดีครับ

นอกจากตัวรสชาติของน้ำซอสแล้ว พระเอกของจานนี้ก็คือ เต้าหู้ทอด เนื้อสัมผัสของเต้าหู้ดีมากๆ นุ่มละมุนสุดๆ เวลาเข้าด้วยกัน เราจะได้สัมผัสของผิวเต้าหู้ที่เหนียวๆ เล็กน้อย พอกัดเข้าไปเป็นเนื้อเต้าหู้เนียนนุ่ม ซอสที่จัดจ้าน มีสัมผัสของผักต่างๆ เช่น ข้าวโพด ถั่วลันเตา และ แครอท นอกจากนี้ ได้ความกรุบกรอบของถั่วลิสงคั่วอีก อร่อยมากๆครับ

เทมปุระผัก ( 250++ บาท )  สำหรับจานนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนเทมปุระที่เราเคยทานกัน อย่างว่าแหละครับ นี่มันอาหารจีนนี่นา ดูหน้าตาจะออกไปทางปาท่องโก๋แบนๆ ด้วยซ้ำ แต่ดูแค่หน้าตาก็ไม่รู้ เลยขอลองชิมเลยแล้วกันครับ คือ แป้งของเขากรอบมาก ข้างในมีความเป็นชั้นแป้งด้วย ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ส่วนตัวคิดว่า แป้งจะคล้ายๆ โรตีกรอบ แต่ทีเด็ดของเขา คือ เขาจะมีไส้ผักอยู่ข้างใน ชิ้นที่ผมทานเป็นเผือก เผือกมีความนุ่มดีครับ รสชาติเป็นรสธรรมชาติของตัวเผือกเองเลยครับ มีความหวานของเผือกนิดๆ ในจานนี้ จะมี 3 ไส้ คละกันอยู่นะครับ มี เผือก ฟักทอง และ แครอท

มาคู่กับซอสวาซาบิ จะเป็นเหมือนมายองเนส รสชาติจะไม่ได้หวานๆ เหมือนมายองเนสทั่วๆไป และ ผสมวาซาบิลงไป จะทานเปล่าๆ หรือ ทานกับซอส ก็ได้รสชาติที่ดีไปคนละแบบครับ

ข้าวผัดไก่เจ ( 250++ บาท ) 

สำหรับจานนี้ เขาผัดข้าวออกมาได้หอมดีครับ ข้าวยังเป็นเม็ดสวย มีความเหนียวนุ่ม ผัดกับซอสสูตรเฉพาะ รสชาติไม่จัด เค็มอ่อนๆ

ผัดหมี่ซั่วหมูแดงเจ ( 250++ บาท )  รสชาติเค็มอ่อนๆ ผัดมากับเครื่องต่างๆ เช่น เห็ดหอม กะหล่ำปลี แครอท และ หมูแดงเจ

มาปิดท้ายด้วย ติ่มซำ วันนี้เชฟขอแนะนำ 3 อย่าง จากทั้งหมด 9 อย่าง ได้แก่ ฮะเก๋าเจ ฮั่มสุ่ยกอเจ และ ขนมผักกาดเจ มาเริ่มกันที่ ฮะเก๋าเจ ( 90++ บาท )

ไส้ข้างในจะเป็นผักรวม คือ แครอท ข้าวโพด ถั่วลันเตา แป้งมีความหนากำลังดี มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของฮะเก๋า แต่แป้งอาจจะไม่ได้มีความเหนียวมากนักครับ

ฮั่มสุ่ยกอเจ ( 80++ บาท ) ส่วนตัวค่อนข้างจากจานนี้ สารภาพว่าไม่เคยทานเจ้าฮั่มสุ่ยกอมาก่อนเลยครับ หน้าตาคล้ายมันฝรั่งเลย

ฮั่มสุ่ยกอ คือ จะอยู่ในหมวดของซาลาเปาทอด แต่เขาจะใช้เป็นแป้งข้าวเหนียว แทนแป้งสาลี

หั่นค่อนข้างยากทีเดียว เพราะแป้งเค้าบางมากๆ ผิวด้านนอกมีความกรอบ แต่ข้างในมีความชุ่มของตัวไส้ เวลาเคี้ยว ตัวเปลือกจากความกรอบ เปลี่ยนเป็นสัมผัสที่เหนียวนุ่ม รู้สึกได้ถึงความเป็นแป้งข้าวเหนียว ส่วนตัวไส้รสชาติจะออกเป็นหวานนำ เค็มตามหน่อยๆ จะเป็นหัวหอมใหญ่ และ ไก่เจ จานนี้อยากให้ได้ลองชิมกัน อร่อยครับ

ขนมผักกาดเจ ( 80++ บาท )

ขนมผักกาดของที่นี่ ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างทานง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบกลิ่นของหัวไชเท้าแรงๆ เพราะของที่นี่ กลิ่นจะค่อนข้างจะอ่อนมากๆ ข้างในก็มีเห็ดหอมแทรกอยู่ในเนื้อแป้งด้วย เนื้อมีความนุ่มดีครับ

รายการอาหารพิเศษทั้งหมดนี้ จะมีให้บริการตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เท่านั้นนะครับ สำหรับท่านใดที่ทานเจ แล้วกำลังมองหาร้านอาหารเจ หรือ ท่านที่ไม่ได้ทานเจ แต่อยากลองอาหารเจสไตล์ฮ่องกงแบบนี้ ก็สามารถโทรมาสอบถาม หรือ จองที่นั่ง ได้ที่ (02) 833 5434 หรือ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hkfisherman.com และ Facebook: Hong Kong Fisherman ได้เช่นกันนะครับ