เทรนของการตกแต่งผนังในปัจจุบัน ผนังผ้าไหมของโรงแรมนี้สวยจังเลย แต่…คงดูแลลำบากน่าดู ผนังวอลเปเปอร์ที่นี่สวยจัง มีลายนูนต่ำนิดๆด้วย แต่ใช้ไปนานๆคงลอกแถมเคยอ่านเจอใน www.kinlakestars.com ว่าด้านหลังแผ่นวอลเปเปอร์เป็นที่สะสมของราที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะกับห้องที่เปิดปิดแอร์สลับไปมา !!! ผนังกระเบื้องสวยจังแต่จะเจาะน๊อตแขวนภาพ ทำอะไรก็ลำบาก กลัวกระเบื้องแตก อยากได้ผนังลวดลายสวยๆที่ไม่ใช่เพียงสีเรียบๆแต่ทำง่ายคงทนไม่สะสมเชื่อโรค ไม่ใช่ผ้า ไม่ใช่วอลเปเปอร์และไม่ใช่กระเบื้อง จะไม่ไหม? … ขอบอกเลยว่ามีครับ ทั้งสวย ทั้งคุณภาพดี ราคาควบคุมได้ คืออะไรหละ ไปดูกันเลยครับ ปัจจุบันนี้ผนังภายในบ้านหรือภายในอาคารนิยมสร้างความโดดเด่นนอกจากเพียงแค่การทาสีเรียบๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วอลเปเปอร์ในการตกแต่ง เนื่องจากติดตั้งง่าย สามารถปกปิดความบกพร่องของพื้นผิวได้ในกรณีงานปูนฉาบไม่ดี มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันวอลเปเปอร์ก็มีปัญหาหลายอย่างเช่น ถ้าผนังที่มีความชื้นอยู่ วอลเปเปอร์อาจจะเป็นแหล่งสะสมความชื้น เกิดเชื้อโรคและเชื้อราได้ง่าย หรือวอลเปเปอร์บางประเภทที่ไม่ทนความชื้นจะเกิดปัญหาสีตกและลอกล่อน วอลเปเปอร์ชนิดที่เป็นกระดาษเมือเกิดคราบสกปรกจะทำความสะอาดยาก และเมื่อเวลาผ่านไปต้องการเปลี่ยนใหม่ต้องทำการรื้อถอนวอลเปเปอร์ของเดิมออก ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยาก หรือแม้แต่ผนังที่บุด้วยผ้าก็มีปัญหาใกล้เคียงกับวอลเปเปอร์ ซึ่งท่านสามารถอ่านถึงปัญหาการใช้วอลเปเปอร์ที่ที่ลิ้งค์นี้ >> (คลิกที่นี่) หรือผนังกระเบื้องเองก็ไม่ยืดหยุน สู่ตัวเลือกการตกแต่งผนังที่ดีกว่า จากปัญหาดังกล่าว จึงเป็นที่มาของสีสร้างลวดลายวอลเปเปอร์ สีสูตรพิเศษกว่าสีทาภายในทั่วไป รวมกับเทคนิคของการสร้างลวดลายแบบต่างๆ สามารถสร้างลวดลายคล้ายกับวอลเปเปอร์ได้ และมีคุณสมบัติต่างๆเช่น ไม่เกิดปัญหาเชื้อรา เมื่อเกิดคราบสกปรกบนผนังสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และเมื่อต้องการลวดลายใหม่สามารถทาทับสีเดิมได้โดยไม่ต้องลอกหรือทำการขูดสีเดิมออกก่อน สีสร้างลวดลายจาก TOA ตัวช่วยที่สมบูรณ์แบบ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาด้านต้น หลากลายแบรนด์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สีสร้างลวดลายออกมาในแบบต่างๆ เพื่อตรงความต้องการกับผู้บริโภค ซึ่ง TOA ก็เป็นหนึ่งในนั้น และบทความนี้เราขออนุญาติเสนอสีสร้างลวดลายของทีโอเอให้ทราบครับ ท่านสามารถเข้าชมข้อมูลเต็มของผลิตภัณฑ์ได้ที่ >> (คลิก) สีสร้างลายของ TOA สามารถเลือกจับคู่สีเองได้มากมาย ทั้งยังสร้างลวดลายได้อย่างหลากหลาย หากจะหยิบมาเขียนให้หมดคงต้องเขียนเป็นพันหัวข้อเป็นแน่แท้ ดังนั้นในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกับตัวอย่างลายและสีที่ทาง TOA ยกตัวอย่างมา 5 ลายให้พอเป็นไอเดียกันครับ ส่วนลายและสีทีเห็นด้านบนนี้เป็นการสร้างสรรค์ที่ผู้ออกแบบและช่างสีได้สร้างสรรค์กันขึ้นมาเอง โดยหลักการของสีสร้างลายนั้นประกอบไปด้วยสีและแปรงที่ทำให้เกิดลวดลายและสีที่แตกต่าง สำหรับสีนั้นประกอบไปด้วย Supershield Décor สีทาอาคารภายในสูตรน้ำ ทนทานนานถึง 10 ปี ไร้เชื้อราและรอยต่อ ซึ่งจะใช้กี่ตัวนั้นขึ้นอยู่กับลวดลายที่จะสร้าง เราแนะนำให้ท่านกดเข้าไปดูแบบเต็มๆได้ในลิงค์นี้ครับ >>> (คลิก) โดยในครั้งนี้เรามีตัวอย่างผนังหัวเตียงห้องนอนของคุณ Athiwat T. บรรณาธิการของเราที่ได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ Supershield Décor โดยเลือกเป็นลายผ้าไหมครับ จากด้านบนเป็นตัวอย่างคร่าวๆ ซึ่งถ้าเข้าไปดูในแคตาลอคเต็มที่เป็นไฟล์ PDF ตามลิงค์ด้านบนท่านจะชมได้อย่างจุใจมากกว่านี้…
Author: Kittin Assavavichai
โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เชิญท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์อาหารมื้อพิเศษ จากฝีมือเชฟเจมส์ โนเบิล ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านอาหารรางวัลมิชลินระดับ 2 ดาว จากประเทศอังกฤษ ผู้ที่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรทำฟาร์มออแกนิคในจังหวัดเชียงใหม่ ที่รู้จักกันดี ฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) เชฟเจมส์ เป็นผู้ก่อตั้งฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) ออแกนิคฟาร์มเต็มรูปแบบ มีการนำเอาผลผลิต และวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากฟาร์มมาใช้ในการทำอาหาร ในคอนเซ็ป ” จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร” โดยคำนึงถึงความใส่ใจธรรมชาติอย่างยั่งยืน ในส่วนของเมนูนั้น จะนำเสนอในรูปแบบเมนูสีขาว (White menu) โดยเชฟเจมส์และทีมงานเชฟจะรังสรรค์เมนูออกมาเป็นอาหารจานต่างๆ ตามวัตถุดิบสดใหม่ที่ดีที่สุดโดยส่งตรงมาจากฟาร์มออริจินในแต่ละวัน พบกับเชฟเจมส์ได้ที่ห้องอาหารแซฟฟรอน โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2563 ราคาสุทธิ 5,999 บาท สำหรับ 2 ท่าน แพกเกจรวม – มื้อค่ำโดยเชฟเจมส์ โนเบิล สำหรับ 2 ท่าน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) – ห้องพักประเภทฮอไรซอน 1 คืน (ไม่รวมอาหารเช้า) – บัตรเข้าชม ฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) ที่จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับ 2 ท่าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ +66 2679 1200 หรือ [email protected] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) https://www.ori9inthegourmetfarm.com/ Kin News Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง…
Tea : Mariage Frères Date : Nov 2020 Story : Nathapol K. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. วันนี้ KINLAKESTARS.COM จะขอเชิญทุกท่านไปจิบน้ำชายามบ่ายที่ เดอะ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ อีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าจะไปเยี่ยมเยือนเมื่อใด ก็ยังคงตื่นตาตื่นใจกับจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมอันแสนวิจิตรงดงามที่ศิลปินได้บรรจงสรรสร้างขึ้นมาทุกครั้ง ปกติแล้ว อาฟเตอร์นูนที ที่ เดอะ ล็อบบี้ ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเมนูขนมคาวหวานไปตามช่วงเวลาหรือเทศกาลพิเศษอยู่เสมอ ๆ ซึ่งในช่วงเวลานี้จะอยู่ในธีม Chocolate Temptation Afternoon Tea เอาใจสายช็อคโกแลตเลิฟเวอร์ ให้ได้ลิ้มรสช็อคโกแลตเกรดพรีเมี่ยมกันอย่างเต็มที่ โดยเมื่อก้าวเข้าไปภายในบริเวณร้านก็จะพบกับ chocolate fondue fountain ตั้งอยู่ด้านหน้าอย่างยิ่งใหญ่อลังการ คอยให้ทุกท่านได้มาสนุกสนานเพลิดเพลินกับการดิปช็อคโกแลต ถัดไปเป็นส่วนของขนม ก็จะมีไลน์ที่เป็นช็อคโกแลตล้วน ๆ ทั้งแบบบาร์แบบแผ่น ทั้งไวท์ช็อค ดาร์คช็อค ก็มีหมด และขนมอื่น ๆ ก็มีส่วนที่ใช้ช็อคโกแลตเป็นส่วนประกอบตามธีมอีกด้วย ซึ่งจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป เชื่อว่าคงถูกใจคนรักช็อคโกแลตอย่างแน่นอน ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของอาฟเตอร์นูนที ที่ เดอะ ล็อบบี้ ก็คือเมนูเครื่องดื่มประเภทชา ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นชา Mariage Frères ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชาอันดับ 1 ของโลก โดยจากเดิมที่มีมากถึง 12 กลิ่น ซึ่งจะมี special blend ที่มีเสิร์ฟเฉพาะที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ก็คือ ELÉPHANT BLANC, LUNE ROUGE และ TEMPLE DE L’AUBE ตามที่ทางเพจได้เคยรีวิวมาแล้ว (สามารถย้อนไปอ่านรายละเอียดการรีวิวครั้งก่อนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kinlakestars.com/afternoon-tea-lobby-anantara-siam-review-416/) ซึ่งนับว่าสเปเชี่ยลมาก ๆ อยู่แล้ว แต่ในครั้งนี้มีความพิเศษมากขึ้นไปอีก เนื่องจาก Mariage Frères…
เพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มที่เสิร์ฟแบบไม่จำกัด กับ“ซันเดย์บรั้นช์ที่ดีที่สุดในกรุุงเทพฯ” ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ใน นิตยสาร คอนเด นาสต์ ทราเวลเลอร์ (Conde Nast Traveler) บุุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติเน้นคุณภาพ ในช่วงมื้อสายวันอาทิตย์ พร้อมเครื่องดื่มหลากหลายชนิด และแชมเปญระดับพรีเมียม โมเอต์ เอต์ ชองดง (Moët & Chandon) ฟังเพลงชิลๆ กับวงดนตรีเล่นสด สร้างบรรยากาศแห่งความสุขกับเพื่อนๆและครอบครัว และเพิ่มความพิเศษกับซุ้มร้านอาหารสตรีทฟู้ดมิชลินไกด์และร้านชื่อดังที่จะหมุนเวียนมาในแต่ละสัปดาห์ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ ครัวพรละมัยร้านกระทะร้อน ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช ฯลฯ ซันเดย์บรั้นช์ ที่เลื่องชื่อและเป็นตำนานของโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เป็นเวลานานกว่าทศวรรษ ลิ้มรสอาหารนานาชาติ ที่คัดสรรเมนูอาหารจานเด่นจากห้องอาหารต่างๆ ของทางโรงแรมฯ มารวมกันไว้ให้ท่านได้อิ่มอร่อยกับทุกเมนูภายในมื้อเดียว ทั้งเมนูซีฟู้ดคุณภาพพรีเมี่ยม อาหารยุโรป บีฟเวลลิงตัน และสเต๊กเนื้อคุณภาพนำเข้าจากห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ นอกจากนี้ยังมี เทมปุระ ซูชิ ซาชิมิ ปลาดิบคุณภาพเยี่ยมจากห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร่ อาหารไทยยอดนิยม ผัดไทย ส้มตำ จากห้องอาหารไทยสไปซ์ มาร์เก็ต และพาสต้า รีซอตโต ตำรับอิตาเลียน จากห้องอาหารบิสก็อตติ รวมทั้งโคลด์คัท ชีส และอาหารจีน อาทิ เป็ดปักกิ่ง หมูแดง ให้ได้เลือกสั่งได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีขนมหวานนานาชนิด อาทิ ช็อคโกแลตโดม ไอศกรีมโฮมเมด ฯลฯ เครื่องดื่มทั้งน้ำผลไม้ เบียร์ แชมเปญ ไวน์ ค็อกเทลนานาชนิด ให้เลือกดื่มได้อย่างไม่จำกัด ให้ท่านได้สังสรรค์พร้อมครอบครัวและมิตรสหายที่รู้ใจ ในวันอาทิตย์ สบายๆ ระหว่างเวลา 11:30 – 15:00 น. ในห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ หรือนั่งรับลมในบรรยากาศวิวสวนสวยของ อควา บาร์ ซันเดย์บรั้นช์แพ็คเกจ ราคา 2,200 ++ บาทต่อท่าน รวมน้ำผลไม้ ชา กาแฟ และซอฟท์ดริงค์ พิเศษลดราคา 50% สำหรับเด็กอายุ…
ห้องอาหารบูล แอนด์ แบร์ สเต็กเฮ้าส์สไตล์อเมริกันสุดหรู บนชั้น 55 ของโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เปิดให้บริการเป็นพิเศษในช่วงกลางวันตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2564 อิ่มอร่อยกับอาหารจานเด่นของห้องอาหารบูล แอนด์ แบร์ โดยเชฟแดเนียล มาสเตอร์ หัวหน้าเชฟ ประจำห้องอาหาร ในราคาเริ่มต้นที่ 900++ บาท – 1,800++ บาท สำหรับชุดอาหารกลางวันจำนวน 3 คอร์ส (ไม่รวมเครื่องดื่ม โดยราคาของอาหารขึ้นอยู่กับอาหารจานหลักที่เลือก) อาทิ ซีซ่าร์สลัดสไตล์บูล แอนด์ แบร์ บีฟ ทาร์ทาร์ เนื้อวัวดิบปรุงรสเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง บูล แอนด์ แบร์ เบอร์เกอร์ แฮมเบอร์เกอร์เนื้อสุดพรีเมี่ยมเสริ์ฟพร้อมสลัด หรือเฟรนฟราย สเต็กเนื้อแกะ สเต็กเนื้อ ของหวาน อาทิ สโมค เบอเบริน ชีสเค้ก เสริ์ฟพร้อมไอศกรีมช๊อกโกแลต และอื่นๆอีกมากมาย พิเศษสำหรับวันเสาร์ และอาทิตย์ พลาดไม่ได้กับอาหารจานพิเศษที่เหมาะกับการทานด้วยกัน 2 ท่านขึ้นไป กับจานรวมเสต็กเนื้อสุดพรีเมี่ยม (Wood fire grilled carnivore tasting plate) ราคา 2,100++ ต่อท่าน (รวมอาหารเรียกน้ำย่อย และของหวาน) และเมนูจานรวมอาหารทะเล (Seafood on Ice) ในราคาพิเศษ 900++ ต่อท่านสำหรับจานเดี่ยว เมื่อสั่งพร้อมอาหารแบบชุด พร้อมให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 11:30 น. – 14.00 น. ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคมศกนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 02 846 8888 หรือ [email protected] หมายเหตุ: ราคาอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวไม่รวมค่าบริการ 10%…
หากใครเคยได้มา Sunday brunch ของ up and Above ณ The Okura Prestige แล้วนั้น ท่านจะทราบถึงคุณภาพและรสชาติที่ดีมากของอาหารและเครื่องดื่ม แต่ทว่าในมื้อส่งท้ายวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ (Up & Above Restaurant) ได้รังสรรค์รูปแบบการให้บริการอาหารที่แปลกใหม่กว่าที่เคยมีมา ของเดิมที่ดีอยู่แล้วก็มีต่ออย่างครบครัน แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ Mini tasting Menu แบบ Fine dining ให้เป็นวันหยุดอันแสนประทับใจ ที่กลับมาเปิดให้บริการบุฟเฟต์มื้อสายวันอาทิตย์ (Sunday Brunch) อีกครั้ง โดยมื้ออาหารยอดนิยมสำหรับครอบครัวที่คนกรุงเทพฯ ชื่นชอบ ให้บริการทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. การจัดความห่างโต๊ะอย่างพอเหมาะทำให้ความเป็นส่วนตัวของแขกมีมากพอในระดับที่น่าพอใจ ด้วยบรรยากาศที่สูงโปร่งด้วยเพดานทีมีความสูงถึงระดับ 2 ชั้น พร้อมกับกระจกผืนใหญ่ที่วางตัวเป็นแนวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ที่ทำให้ทุกท่านสามารถดื่มด่ำทัศนียภาพของกรุงเทพฯมุมกว้างได้ไปพร้อมกับกินอาหารเลิศรส คุณภาพสูง ทั้งการปรุงและวัตถุดิบที่เลือกสรรมาอย่างดี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า Sunday brunch ของ The Okura Prestige, Up and Above มีอาหารนานาชาติหลากหลายเมนูให้คุณได้เลือกรับประทานอย่างไม่จำกัด โดยเชฟได้คัดสรรเมนูน่ารับประทานหลากหลายสัญชาติมาให้บริการแก่ทุกท่าน ทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารอเมริกัน อาหารฝรั่งเศส อาหารไทย และอาหารจานหลักปรุงจานต่อจานให้บริการถึงโต๊ะ อาหารจานหลักปรุงจานต่อจานให้บริการถึงโต๊ะ ตับห่านย่างเสิร์ฟกับขนมปังโยโมจิ ล็อบสเตอร์จากแคนาดาย่าง (1 ที่ ต่อท่าน) นอกจากนั้นยังมีอาหารที่เชฟจะรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบตามฤดูกาลเพื่อให้บริการเป็นอาหารพิเศษประจำแต่ละสัปดาห์ ปรุงสดจานต่อจานให้บริการทุกท่านถึงโต๊ะ เช่นหอยเชลล์อบครีมซอสดอกกะหล่ำ ปลากระพงแดงอบราดซอสไวน์ขาวผสมมิโซะ เนื้อปลาแซลมอนลวกสุกเสิร์ฟกับน้ำซุปดาชิและวาซาบิ ริซอตโต้เห็ดนาเมโกะ เนื้อสันในแกะย่างกับเห็ดชิตาเกะ โดยมีไฮไลท์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง เนื้อวากิวย่างเสิร์ฟกับซอสยากินิคุ หอยนางรมสด ๆเสิร์ฟกับแตงกวาดองและซอสพอนซึ ท้องปลาแซลมอนซาซิมิกับซอสโชยุ โทโร่มาริเนทกับเมแรงซอสโชยุและงาขาวกับโนริย่าง กุ้งฝอยกับแผ่นแป้งลักษณะทาร์ท มูสเค้กที่ทำลักษณะภายนอกเป็นส้มเขียวหวาน ครีมส้ม และไส้ตรงกลางเป็นซอสส้ม…
ครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ กับสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังในประเทศไทย เตรียมพบกับงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 21 งานยิ่งใหญ่ประจำปีที่รวบรวมสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก เมนูชั้นเลิศ อาหารและไวน์ชั้นเยี่ยม ตั้งแต่วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ที่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ปีนี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ได้เชิญเชฟระดับมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังที่ได้รับรางวัลรับรองฝีมือและรสชาติอาหาร ในระดับสากล ซึ่งพำนักในประเทศไทย มาร่วมกันรังสรรค์ประสบการณ์ในการรับประทานอาหารในรูปแบบใหม่ อาทิ รับประทานอาหารไทยร่วมกับอาหารตะวันตก ซันเดย์บรั้นช์ที่ยาวนานสุดถึง 5 ชั่วโมงครึ่ง สัมผัสวัฒนธรรมการรับประทานอาหารจากทั่วโลกด้วยฝีมือของ 5 ครอบครัวของผู้ลี้ภัย ผู้หลงใหลในการทำอาหาร โดยเชฟที่ยืนยันมาร่วมงานทั้งหมด ได้แก่ เชฟกากั้น อนันต์ (Gaggan Anand) จากร้านอาหารGAGGAN ANAND ผู้รั้งตำแหน่งมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวเชฟอเมริโก้ เซสทิ (Amerigo Sesti) จากร้านอาหาร แฌม บายฌองมิเชล โลรองต์ (J’AIME by Jean-Michel Lorain) ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาวเชฟการิมา อโรรา (Garima Arora) จากร้านอาหาร GAA ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว · เชฟ อิโนะอุเอะ มานาบุ (Inoue Manabu) จากร้านอาหาร Ginza Sushi Ichi, Bangkok ซึ่งได้มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เชฟแอนดี้ ริคเกอร์ (Andy Ricker) เชฟชาวอเมริกันผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย เจ้าของร้านป๊อก ป๊อก (Pok Pok) ร้านอาหารไทยชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ผู้รั้งตำแหน่งมิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาวเชฟวิชิต มุกุระ และ เชฟเกวลิน พิทยานุกุล จากร้านอาหารรอยัล โอชา Royal Osha ซึ่งได้มิชลินเพลทเชฟอเลสซิโอ บานเชอโร่ (Alessio Banchero) จากห้องอาหารบิสก็อตติ Biscotti ซึ่งได้มิชลินเพลทเชฟ คาวากุชิ ไดกิ (Kawaguchi Daiki) จากร้านอาหาร Ginza Tenharu, Bangkokเชฟพิสิษฐ์ จิโนปง และ เชฟริค ดินเก้น (Rick Dingen)จากอนันตรา โฮเทลส์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ประเทศไทยฉ่อยเป็ดย่าง ร้านสตรีทฟู้ด ซึ่งได้มิชลินไกด์ รางวัล Bib Gourmand (บิบ กูร์มองด์)ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช (Yaowarat Toast) ร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังนิ-อ่าง น้ำแข็งไส ไอศครีม ร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังสรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทย ร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังกลุ่ม Na Projects : 5 ครอบครัวจาก เอธิโอเปีย ปากีสถาน ปาเลสไตน์ ศรีลังกา และเวียดนาม ในเทศกาลครั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน โดย เชฟกากั้น อนันต์ ผู้ที่โด่งดังด้านอาหารอินเดียสไตล์โปรเกรสซีพ และเคยครองแชมป์อันดับ 1 จากการประกาศผล Asia’s 50 Best Restaurants ติดต่อกันถึง 4 สมัย ครั้งนี้เขาจะรังสรรค์เมนูดินเนอร์สไตล์ฝรั่งเศส 18 คอร์ส สุดพิเศษ เพียงงานนี้เท่านั้น! เชฟกากั้น ผู้รั้งตำแหน่งเชฟมิชลินระดับ 2 ดาว เคยมีความฝันที่จะเป็นเชฟด้านอาหารฝรั่งเศส…
แพ็คเกจดินเนอร์สุดพิเศษที่ทาง MasterChef ทั้ง 2 ท่าน (คุณเป่าเป้และคุณเควส) รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการรับประทานอาหารในแบบ degustation ได้ลิ้มลองกันถึง 8 คอร์ส พร้อมเพลิดเพลินไปกับคุณ ไอซ์ ศรัณยู (14 พย) หรือคุณตี๋ เดอะวอยซ์ (15,21,22 พย) ในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ณ ห้องอาหาร Vertigo Too Banyan tree Bangkok โดยเริ่มต้นประสบการณ์กันตั้งแต่เวลา 18.30น เป็นต้นไป สำหรับในวันที่ 14 พย / 5,499 บาท ต่อท่าน สำหรับในวันที่ 15,21,22 พย / 4,999 บาท ต่อท่านเพิ่มเติม: รับเลย ห้องพักแบบ Serenity 1 ห้อง (เฉพาะห้องพัก/สำหรับ 2 ท่าน) เมื่อซื้อแพ็คเกจสำหรับ 2 ท่านขึ้นไปในคราวเดียว *เป็นไปตามข้อกำหนดจากทางโรงแรมสอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่:[email protected]หรือโทร 0 2679 1200(ในวันและเวลาทำการ) Kin News Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน…
ส่งท้ายวันหยุดสุดสัปดาห์ให้เป็นวันหยุดอันแสนประทับใจ ที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The OkuraPrestige Bangkok) ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ (Up & Above Restaurant)กลับมาเปิดให้บริการบุฟเฟต์มื้อสายวันอาทิตย์ (Sunday Brunch) อีกครั้งมื้ออาหารยอดนิยมสำหรับครอบครัวที่คนกรุงเทพฯ ชื่นชอบให้บริการทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. มีอาหารนานาชาติหลากหลายเมนูให้คุณได้เลือกรับประทานอย่างไม่จำกัดเชฟได้คัดสรรเมนูน่ารับประทานหลายหลากหลายสัญชาติมาให้บริการแก่ทุกท่านทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารอเมริกัน อาหารฝรั่งเศส อาหารไทยโดยมีอาหารจานหลักปรุงจานต่อจานให้บริการถึงโต๊ะ อาทิ ตับห่านย่างเสิร์ฟกับขนมปังโยโมจิ ล็อบสเตอร์จากแคนาดาย่าง (1 ที่ ต่อท่าน)นอกจากนั้นยังมีอาหารที่เชฟจะรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบตามฤดูกาลเพื่อให้บริการเป็นอาหารพิเศษประจำแต่ละสัปดาห์ ปรุงสดจานต่อจานให้บริการทุกท่านถึงโต๊ะ เช่นหอยเชลล์อบครีมซอสดอกกะหล่ำ ปลากระพงแดงอบราดซอสไวน์ขาวผสมมิโซะเนื้อวากิวย่างเสิร์ฟกับซอสยากินิคุ หอยนางรมสด ๆเสิร์ฟกับแตงกวาดองและซอสพอนซึ เนื้อปลาแซลมอนลวกสุกเสิร์ฟกับน้ำซุปดาชิและวาซาบิ ริซอตโต้เห็ดนาเมโกะเนื้อสันในแกะย่างกับเห็ดชิตาเกะมุมอาหารญี่ปุ่นให้บริการซูชิและซาซิมิสดใหม่ตามฤดูกาลโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญจากห้องอาหารยามาซาโตะ (Yamazato) ที่ได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ (MICHELIN Plate)นอกจากนี้ยังมี ทาโกะยากิ ยากิโทริ เทมปุระ และอื่น ๆ ไว้ให้ได้เลือกสรรส่วนอาหารทะเลสด ๆ ที่ทุกคนชื่นชอบมีให้บริการแบบเย็นฉ่ำบนน้ำแข็ง ได้แก่ปูอลาสก้า กั๊ง ล็อบสเตอร์จากแคนาดา หอยเรเซอร์แคลม ปูหิมะกล้ามปูนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส หอยแมลงภู่ กุ้งลายเสือ และหอยนางรมสดหลากหลายชนิด ส่วนอาหารทะเลปรุงร้อน ได้แก่ กุ้งลายเสือย่างหอยนางรมย่าง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด และยังมีแซลมอนรมควันให้บริการสำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาแซลมอน พลาดไม่ได้กับซี่โครงแกะอบสมุนไพรแก้มวัวออสเตรเลียตุ๋น และ เนื้อส่วนซี่โครงจากออสเตรเลียย่างให้บริการกับเครื่องเคียงนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นสลัดผักเพื่อสุขภาพมันฝรั่งอบชีสเป็นชั้น ๆ มันฝรั่งตุ๋นกับไขมันจากเนื้อวากิว แครอทออแกนิกผัดเนย Park Ventures Ecoplex, 57 Wireless Road, Bangkok 10330, ThailandTel: +66 (0) 2687 9000 Fax: +66 (0) 2687 9001 www.okurabangkok.com OKURA HOTELS & RESORTS ผักอองดีฟตุ๋นในน้ำซุปดาชิและส้มแมนดารินอีกทั้งยังมีอาหารไทยไว้ให้บริการประกอบไปด้วย ปูผัดผงกระหรี่…
อิ่มบุญอิ่มใจแล้วยังอิ่มท้องอีกด้วย เทศกาลเจปีนี้ ห้างเซ็นทรัล ยกกองทัพเมนุอาหารเจจากร้านอาหารชื่อดังมาให้เลือกมากมาย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทั้งคาว-หวาน ให้การกินเจของคุณไม่จำเจอีกต่อไป ที่ Eathai (อีทไทย), Living House (ลิฟวิ่ง เฮ้าส์) และEatery House (อิทเทอร์รี เฮ้าส์)ตั้งแต่ วันที่ 16 ต.ค. 63 – 25 ต.ค. 63 เริ่มที่ Eathai (อีทไทย) ยกเมนูอาหารจากร้านดังมาพร้อมเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองมากมาย อาทิ เมนูสไตล์ Buddha Bowl ที่ให้ครบทั้งคุณค่า และความอร่อยจาก ร้านครัวคุณเชิญ ซึ่งปีนี้มีเมนูพิเศษสำหรับเทศกาลเจครั้งนี้กับชุดเมนูอาหารเจทั้ง 4 ชุด อาทิ ชุดข้าวผัดฮังเลเจ,ชุดข้าวผัดน้ำพริกลงเรือเจ เป็นต้น และพิเศษสุดเพียงปีละหนึ่งครั้งในช่วงเทศกาลเจเท่านั้น! กับซาลาเปาเจเห็ดหอมจาก ครัวเจ๊ง้อ เมนูเลื่องชื่อที่ทุกคนตั้งตารอ นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดอย่างหมี่ผัดกระเฉดเจ, ผัดผักบุ้งฝอยเจ, ผัดหมี่ซั่วเจ, หมี่ผัดเจ และขนมจีนน้ำยาเจให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย และมาต่อกันที่เมนูผัดซีอิ๊วเจคะน้าฮ่องกง และกระเพาะปลาน้ำแดงเจจาก ร้านแสนยอดโภชนา ตำนานอาหารจีนกวางตุ้งย่านบางรักกว่า 50 ปี อาหารจีนสูตรกวางตุ้งที่ยังคงรสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับ และอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดราดหน้าเจ จากร้านดังเคี้ยงเอ็มไพร์ ราดหน้าเจ้าเก่าที่มีชื่อเสียงความอร่อยที่เลื่องลือกับราดหน้ารสชาติกลมกล่อมถ้าได้ลองต้องติดใจแน่นอน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเมนูข้าวผัดน้ำพริกกะปิเจ เมนูสุดแซ่บกับน้ำพริกกะปิเจสูตรพิเศษจากครัวชาววัง โดยบ้านม.ล.เนื่องนิลรัตน์ สูตรสำรับเจ้านายห้องเครื่องวังสวนสุนันทาที่คัดสรรความอร่อยแบบฉบับชาววังด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูพะแนงเจสูตรเฉพาะของครัวชาววัง เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็อร่อยอิ่มท้องอิ่มใจแล้ว สำหรับใครอยากสัมผัสรสชาติที่หาทานไม่ได้ง่ายๆ ห้ามพลาดเลยทีเดียว และมาต่อกันที่โซนมุมอร่อยที่ยกทัพอาหารเจจากร้านอาหารชื่อดังมาเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษให้ได้ลิ้มลองความอร่อยกันถึงที่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านจันทน์จ้าวข้าวแต๋น, ร้านคุณฉุยขนมเปี๊ยะ, ร้านอิ่มใจ กล้วยปิ้ง, ร้านของทอดคนแซ่ลี้ เยาวราช ของทอดเจ และ ร้านวลีย์ มังสวิรัติ ข้าวแกง มาต่อกันที่เมนูจาก Living House และEatery House พื้นที่ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง ต้อนรับเทศกาลกินเจเอาใจสายบุญและสายรักสุขภาพ กับหลากหลายร้านที่คัดสรรเมนูเด็ดมาโดยเฉพาะ อาทิ ร้านแปลงนาม (ข้าวต้มเจ) , ร้านเวียตคูซีน (อาหารเวียดนามเจ), ร้านต้นกล้าฟ้าใส (อาหารสุขภาพ), ร้านวอค (เดรี่ หมี่ผัดเจ), ร้าน Pok Pok (บะหมี่เย็นเจ), ร้านบ้านคุณฉุย ( ขนมเปี๊ยะเจ), ร้านจันทร์เจ้า (ข้าวแต๋นเจ), ร้าน Soya Soyum (น้ำเต้าหู้), ร้านโทกิ (คุ๊กกี้เจ),ร้าน Farmer’s Grain (ขนมปังธัญพืช), ร้านอิ่มใจ (ไอศกรีมเจ), ร้าน Vegamerie (เค้กสุขภาพ)นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารเจจากร้านอาหารในพื้นที่อีกมากมาย ให้ได้อิ่มบุญอิ่มใจไปกับเทศกาลอาหารเจ และชิลล์ไปกับ Live Music ในพื้นที่จัดงานทั้ง 2 สาขา ในวันที่ 17-18 และ 24-25 ต.ค. 63เวลา 12.00 – 14.00 น. OLYMPUS DIGITAL CAMERA พบกับกองทัพเมนูอาหารเจหลากหลายได้ที่ Eathai (อีทไทย) ชั้น LG ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซีLiving House ชั้น 7 เซ็นทรัลสาขา เซ็นทรัลเวิลด์ และ Eatery House ชั้น 5 เซ็นทรัลสาขา บางนา ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 63 – 25 ต.ค. 63 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Eathai โทร.02-1605995 หรือสั่งอาหารเจแบบเดลิเวอรีได้ที่ LINE@Eathaibycentral และ Living House: Facebook/Instagram: Living House At Central และสั่งอาหารเดลิเวอรี LINE @LivingHouseCentral โทร. 02-1009974